วันที่ 11 กรกฎาคม ตรงกับวันที่ระลึกสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ จึงขอระลึกถึงวันสำคัญนี้ด้วยการนำบันทึกของ เอนเยลเบิร์ต แกมป์เฟอร์ หรือหมอแกมป์เฟอร์ แพทย์ชาวเยอรมัน หมอประจำคณะทูตเนเธอร์แลนด์ ที่เคยเดินทางมาเข้ามาพักในกรุงศรีอยุธยา หมอแกมป์เฟอร์เคยอยู่ในประเทศไทยประมาณ 23 วัน ก่อนจะเดินทางต่อไปประเทศญี่ปุ่น หลังเดินทางไปแล้วหมอแกมป์เฟอร์ได้เขียนหนังสือ ชื่อ ประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่น พร้อมคำบรรยายว่าด้วยราชอาณาจักรสยาม ช่วงเวลาที่หมอแกมเฟอร์เข้ามาในสยามตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชาที่เพิ่งผลัดแผ่นดินได้ 2 ปีนับว่าเพิ่งผ่านเหตุการณ์ปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไปไม่นาน จึงขอนำเอาเนื้อหาตอนสมเด็จพะนารายณ์มหาราชสวรรคต มาบันทึกไว้เป็นที่ระลึกถึงวันสำคัญนี้
พระนารายณ์สวรรคต ... แล้วพระเพทราชาก็จับ พระอนุชาทั้งสองของพระเจ้าแผ่นดินว่าเกี่ยวข้องด้วยกับผลประโยชน์ของฟอลคอน ให้เอาไปณ วัดใกล้ ๆ วัดหนึ่ง ที่นอกเมืองลพบุรี แล้วทุบเสียด้วยท่อนจันทน์ ทั้งนี้เป็น ประเพณีเพื่อมิให้โลหิตแห่งเชื้อพระวงศ์ตกทาแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินดำรงพระชนม์อยู่ด้วยความโทมนัสพระทัยเป็นที่สุด จนถึง เวลาที่พระอนุชาทั้งสองของพระองค์สิ้นพระชนม์ลงโดยทำนองเดียว กับที่พระองค์ได้ทรงปลงพระชนม์พระศรีสุธรรมราชา (Praoitama Ratia) สมเด็จพระเจ้าอาของพระองค์ ….. พระศรีสุธรรมราชานั้นได้เสวยราชสมบัติสืบสันตติวงศ์ต่อจากพระราชบิดาของพระเจ้าแผ่นดินองค์นี้ ครองราชย์อยู่ อยู่ได้สามเดือน ก็เสีย ราชสมบัติแก่พระนัดดาข้อที่เพิ่มความโทมนัสพระทัยหนักขึ้นอีกนั้น ก็คือว่า พระนารายณ์ทรงรัก ใคร่นับถือ พระเพทราชา เป็นพระสหายอันสนิทของพระองค์อยู่เสมอ และพระเพทราชาผู้นี้เป็นบุตรภคินีของพระองค์ และภคินีกับ ธิดาของพระเพทราชาเล่าก็เป็นชายาของพระเจ้าแผ่นดินอีกโสดหนึ่ง ทั้งพระเพทราชาเองก็แสดงความไม่ยินดีในราชสมบัติอยู่เป็นนิจ จนพระนารายณ์ทรงเชื่อถือและไว้วางพระราชหฤทัยยิ่งนัก มิได้มี พระทัยระแวงสงสัยว่า จะทำการอันเหี้ยมโหดสยดสยองอย่างนี้เลย ด้วยความเศร้าโทมนัสอย่างยิ่งนี้ พระองค์เสด็จสวรรคตใน 2 วัน ต่อมาเป็นวันที่ 11 กรกฎาคม 1689 หรือตามศักราชไทยเป็นปี พ.ศ. 2232 สิริพระชนมายุ 56 พรรษา เป็นปีที่ 32 ในรัชกาล อันสงบสุขของพระองค์ ดังนี้ พระเพทราชาก็ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แห่งสยามประเทศ แห่งเมืองตะนาวศรี สุโขทัย พิษณุโลกและ เป็นผู้ปกป้องคุ้มครองเมืองเขมร ยะฮอร์ ปัตตานี และเมืองไทรบุรี
หมอแกมป์เฟอร์เขียนถึงกรณีสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไว้เพียงสั้นๆ ซึ่งไม่ได้มีความชัดเจนว่าพระองค์สวรรคตจากเหตุผลได้ แน่นอนว่าพระองค์ทรงเสียพระทัยต่อการกระทำของสมเด็จพระเพทราชา แต่ก็ไม่มีบันทึกที่ชัดเจนว่าสมเด็จพระนารายณ์มหาราชสวรรคตด้วยสาเหตุอะไร บางบันทึกเขียนชวนให้คิดว่าการสวรรคตไม่ธรรมดา แต่หนังสือเรียนของคนส่วนใหญ่จำได้ จะจำได้ว่า พระองค์สวรรคตเพราะทรงพระประชวรหนัก เอาเป็นว่าไม่ว่าสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจะเสด็จสวรรคตด้วยสาเหตุอะไร พระองค์ได้สวรรคตแล้วในวันนี้ เมื่อ 333 ปีที่ผ่านมา รัชสมัยของพระองค์มีการทำศึกชนะอริราชศัตรู และมีความเจริญทางการค้า และการต่างประเทศ เป็นยุคทองของความสัมพันธ์กับนานาชาติ มีการแต่งตำราภาษาไทย จินดามณี มีความเจริญรุดหน้า พระมหากรุณาธิคุณนั้น ได้รับการยกย่องเป็น มหาราช ที่คนไทยไม่มีวันลืม