1 มี.ค.66 - โซเชียลตั้งคำถามกินกันมานานเท่าไร! หลัง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยัน ตำรวจ บก.ปทส. บุกทลายโรงชำแหละตัวเงินตัวทอง ส่งร้านอาหารป่า แก้ข่าวไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้น
เพจตำรวจสอบสวนกลาง รายงานข้อมูลหลังที่มีเพจเฟสบุ๊กหนึ่งโพสต์รูปภาพตัวเงินตัวทอง พร้อมข้อความระบุว่า “บุกทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาเจ้าใหญ่ที่ดัดแปลงใช้เนื้อของตัวเงินตัวทองมาทำเป็นลูกชิ้นปลา เนื้อขาวใสไร้ความคาวส่วนหนังน่านำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ จัดจำหน่ายส่งขายทั่วประเทศมานานแล้ว”
•
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ชี้แจงระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นผลงานการจับกุมของตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบซื้อขายเพื่อการค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ในพื้นที่อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา (28 ก.พ.)
โดยจากการสอบถามผู้ต้องหา และจากการสืบสวน ยืนยันว่า ซากตัวเงินตัวทองเหล่านี้ เตรียมนำไปขายต่อที่ตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
•
โดยข้อมูลเพิ่มเติมจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอู่ทอง ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 274 หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านโข้งอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
ผลการตรวจค้นพบสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน จำนวน 4 ชนิด ได้แก่
•ตัวเหี้ยที่ยังมีชีวิตอยู่ในถุง จำนวน 32 ตัว
•ซากตัวเหี้ยวางกองอยู่กับพื้นและอยู่ในกะละมัง จำนวน 59 ซาก
•เต่านาจำนวน 20 ตัว
•เต่าหับจำนวน 2 ตัว
•เต่าดำ จำนวน 6 ตัว อยู่ในโอ่งมังกร
สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ร่วม 6 คน ที่กำลังนั่งจับกลุ่มเพื่อทำการชำแหละตัวเหี้ย เพื่อส่งร้านอาหารที่ลักลอบทำเมนูเปิบพิสดาร
จากการตรวจสอบผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีเอกสารหลักฐานการได้รับอนุญาตครอบครองหรือเพาะพันธุ์สัตว์ป่าแต่อย่างใด จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของกลางทั้งหมดได้ส่งมอบให้กับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป
•
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซี่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 ข้อหา “ร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ