12 ก.ย.68 - กระทรวง อว.เชื่อม “ไทยสู่โลกอนาคต” จับมือมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (ASU) สหรัฐฯ ยกระดับอุตสาหกรรม “เซมิคอนดักเตอร์ - ไมโครอิเล็กทรอนิกส์”
ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมพร้อมด้วยรศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร(MUT) และผู้แทนอาวุโสจากภาครัฐ ผู้นำสถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม อาทิ นายนฤตม์ เทอดสถีรกุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ดร. สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล ประธานคณะอนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. และ ดร.ปรอง กองทรัพย์โต Chief of Staff, Lumentum International (Thailand) ได้เดินทางไปหารือความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (ASU) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เป็นศูนย์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ ภายใต้กรอบนโยบาย CHIPS and Science Act พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) เพื่อขยายความร่วมมือด้านวิชาการ การวิจัย และการพัฒนากำลังคนในสาขาเซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กับ Dr. Michael M. Crow, President of Arizona State University (ASU) ที่เมืองเทมปี รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง อว. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร(MUT) และมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (ASU) จะครอบคลุมในหลายมิติ ได้แก่ 1.โครงการวิจัยและการศึกษาแบบร่วมมือด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ สุขภาพ และการผลิต 2.การพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทวิภาคีด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ 3.โปรแกรมเส้นทางปริญญาร่วม ภายใต้เครือข่ายพันธมิตร ASU-Cintana และ 4.โปรแกรมพัฒนากำลังคนและวิชาชีพ เพื่อยกระดับทักษะแรงงาน นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันระหว่างไทยและสหรัฐฯ เพื่อสร้างองค์ความรู้ ทักษะ และนวัตกรรมในสาขาที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยการเชื่อมโยงเป้าหมายของไทยในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ด้านเซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ที่สมบูรณ์เข้ากับศักยภาพด้านการศึกษาและการวิจัยของ ASU ก่อให้เกิดความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายสามารถเรียนรู้ แบ่งปัน และเติบโตร่วมกันได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครในฐานะหนึ่งในศูนย์พัฒนากําลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติของไทย ยังมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการศึกษา การวิจัย และอุตสาหกรรม เพื่อให้ผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่การพัฒนาที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ
“นี่คือความร่วมมือที่จะนำไปสู่การพัฒนาทางด้านการวิจัยและนวัตกรรมร่วมกันในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรผ่านการแลกเปลี่ยนบุคลากร การฝึกอบรมและการจัดอบรมระยะสั้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูล การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคเอกชน และการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ทั้งหมดนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในภาคการอุดมศึกษาและภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนและความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ในภาพรวม”
นอกจากการลงความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ศ.ดร.ศุภชัยและคณะยังได้ร่วมหารือกับคณะผู้บริหารของ ASU การประชุมโต๊ะกลมกับภาคอุตสาหกรรม โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำ เช่น Intel, Microchip, Siemens, Deca, Benchmark รวมทั้งหน่วยงาน Arizona Commerce Authority และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจเมือง Chandler เข้าร่วม เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ของความร่วมมือสนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมพบปะกับผู้นำระดับโลก คณาจารย์ และนักวิจัยของ ASU จากหลายส่วนงาน อาทิ สถาบัน Biodesign, โรงเรียนการจัดการระดับโลก Thunderbird, MacroTechnology Works, ASU Health, Dreamscape Learn สำนักงานวิจัย นวัตกรรม และผู้ประกอบการของ Fulton Schools โดยได้หารือความร่วมมือในด้านหลักสูตร การฝึกอบรมคณาจารย์ด้านเซมิคอนดักเตอร์ วิศวกรรมชีวการแพทย์และนวัตกรรมสุขภาพ การผลิตขั้นสูง และเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงเยี่ยมชมอาคาร Interdisciplinary Science and Technology Building 12 (ISTB12) ซึ่งเพิ่งเปิดใช้งาน และเป็นที่ตั้งของ School of Manufacturing Systems and Networks ในวิทยาเขตโพลีเทคนิค
โดย รศ.ดร.ภานวีย์ เปิดเผยหลังการเยี่ยมชม ISTB12 และโรงเรียน Manufacturing Systems and Networks ของ ASU ว่า ถือเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง งานวิจัยล้ำสมัยด้านการผลิตขั้นสูงและหุ่นยนต์เชื่อมโยงโดยตรงกับความต้องการของมหาวิทยาลัยมหานครและของประเทศไทย อีกทั้งยังมอบข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเรา ขอขอบคุณโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ ASU มอบให้เราในครั้งนี้ด้วย “ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับชาติ และรู้สึกซาบซึ้งที่ได้มี ASU เป็นพันธมิตรสำคัญ”