เมื่อค่ำวานนี้ (๘ ม.ค.๖๗ ) โลกกีฬาต้องสูญเสียผู้ยิ่งใหญ่ในวงการกีฬา ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ เจ้าของแชมป์โลกทั้งในช่วงเป็นนักเตะ และ เป็นผู้จัดการทีม ซึ่งทั่วทั้งโลกมีเพียง 3 คนเท่านั้น รวมทั้งบัลลงดอร์ 2 สมัย มีกองหลังเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้ ความยิ่งใหญ่ของเขายังมีอิทธิพลจนแม้กระทั่งอดีตทีมชาติไทยยังได้รับ
'ฟรานซ์ อันโทน เบคเคนบาวเออร์' เกิดที่เมืองมิวนิค เมื่อปี 1945 หลังสงครามจบเพียงไม่นานเท่าไหร่ โดยเริ่มการเป็นนักเตะเยาวชนกับ 1906 มึนเช่น (SC 1906 München) ในเมืองมิวนิก ก่อนไปเติบโตกับยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลิกา กับ บาร์เยินมิวนิค ตลอดกว่า 18 ปีกับบาเยิร์นมิวนิค คว้าถาดบุนเดสลิกาไป 4 สมัย เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย และคัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัย และยังไปได้บุนเดสลิกาอีก 1 สมัยกับ ฮัมบูร์ก และแชมป์อเมริกาเหนือ 3 สมัยซ้อน กับนิวยอร์ค คอสมอส ในสมัยเริ่มตั้งไข่ฟุตบอลในสหรัฐอเมริกา และรางวัลที่สำคัญสุดอย่างแชมป์โลกในปี 1974 และคว้ารางวัลส่วนตัวอย่างผู้เล่นยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ 2 สมัยในปี 1972 และ 1976
หลังจากนั้น เขากลับไปคุมทีมในระดับสโมสร ได้แชมป์ลีกเอิงกับโอลิมปิก มาร์กเซย 1 สมัย และแชมป์บุนเดสลีกา รวมถึงยูฟ่า คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย กับการคุมทีมบาเยิร์น มิวนิค และ คุมทีมชาติเยอรมนีตะวันตก คว้าแชมป์โลกอีกครั้งในปี 1990 ก่อนการรวมชาติเยอรมนีจะเกิดขึ้นในปีถัดมา
นอกจากแชมป์มากมายที่เขาได้รับแล้ว เขายังเป็นผู้ที่สร้างตำนานกับตำแหน่ง ลิเบอโร่ โดยเป็นตำแหน่งสที่แตกมาจากกองหลังตัวกลางอีกที หรือเป็นตำแหน่งที่มีกองหลังตัวกลางสามคน ซึ่งเป็นตำแหน่งระหว่างกองหลังตัวกลางทั้งสองโดยห้อยต่ำกว่ากองหลังตัวกลางทั้งสองตัว คอยสกรีนบอลที่ตกมาจากกองหลังตัวกลาง และจ่ายบอล หรือพาบอลขึ้นไปทำเกมส์รุกอีกด้วย ชื่อนี้มาจากวลี "sweeps up" ในการขจัดบอลที่อีกฝ่ายเลี้ยงฝ่าแนวรับมาได้ ตำแหน่งพวกเขานั้นมีความเป็นอิสระมากกว่าแผงหลังซึ่งคอยประกบอีกฝ่ายที่ถูกกำหนดขึ้น ตำแหน่งสวีปเปอร์จำเป็นต้องมีทักษะอ่านเกมได้ยิ่งกว่ากองหลังตัวกลาง ในปัจจุบันมีกฎล้ำหน้าซึ่งมักใช้แนวนับในการจับอีกฝ่ายล้ำหน้า ทำให้ตำแหน่งนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในปัจจุบัน
สำหรับเบคเคนบาวเออร์ เขาเริ่มต้นจากตำแหน่งปีก ก่อนหุบเข้ามาเป็นกองกลาง และสุดท้ายในตำแหน่งตัวรับอิสระอย่างลิเบอโร่ และยิ่งเป็นตัวรับอิสระแบบลิเบอรโร่ศักยภาพทางร่างกายที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาสามารถตามเก็บตกลูกที่กองหลังเพื่อนร่วมทีมทำหลุดมาได้แทบทุกลูก วิสชั่นในการอ่านเกมและการจ่ายบอลที่แม่นยำทำให้เขาเป็นคนที่เปิดบอลยาวเพื่อเริ่มต้นเกมสวนกลับได้ดีกว่าคนอื่น ๆ และความสามารถในการครองบอลทำให้เขากลายเป็นจุดเริ่มต้นในเกมรุกได้อย่างไม่มีที่ติ และที่สำคัญที่สุด ทักษะความเป็นผู้นำของเขาทำให้เขากลายเป็นผู้สั่งการที่คอยควบคุมผู้เล่นทั้งสนาม และนั่นคือวันที่เขากลายเป็นอุดมคติของกองหลังทุกคนหลังจากนั้น
แน่นอนหลังจากนั้นกองหลังทุกคนต้องมีเบคเคนบาวเออร์เป็นไอดอลของเขา หนึ่งด้วยศักยภาพต่าง ๆ จนสุดท้ายคว้าแชมป์โลก และมีกองหลังในโลกไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรปอย่างบัลลงดอร์ได้ ซึ่งเขาคว้ามาได้สองสมัยด้วยซ้ำ
หลังลงจากการเป็นนักเตะ เขายังเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยม คว้าแชมป์โลกกับเยอรมนีตะวันตก คว้าแชมป์บุนเดสลิกากับบาร์เยิร์นมิวนิค คว้าแชมป์ลีคเอิงกับ มาร์กเซย และการก้าวไปเป็นผู้บริหารทั้งกับบาร์เยินมิวนิคและสมาคมฟุตบอลเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เยอรมนีได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 2006
นอกจากนั้นเขายังเป็นไอดอลให้กับนักฟุตบอลมากมาย เช่นในไทย เบคเคนบาวร์ เสืออินทร์ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ก็ได้รับอิทธิพลจากเขาทั้งชื่อและการเล่นฟุตบอล ที่ส่งผ่านคุณพ่อของเบคเคนบาวร์ เสืออินทร์ ต่อมาถึง เบคเคนบาเออร์ ชาวไทย แม้จะคนละตำแหน่งก็ตาม
นับเป็นอิทธิพลของมนต์เสน่ลูกหนังของ "แด ไกเซอร์” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการฟุตบอล การจากไปของเขาจึงนำความโศกเศร้ามาสู่คนลูกหนังทุกคนทั้งที่ทันและไม่ทันดูเขาเล่น สดุดีแด่ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ * "แด ไกเซอร์” ผู้ยิ่งใหญ่
*Der kaiser แปลว่า จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ใช้เรียกจักพรรดิตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาจนถึงอาณาจักรปรัสเซีย และราชอาณาจักรเยอรมนี เป็นการเปรียบเบคเคนบาวร์ ดั่งจักรพรรดิลุกหนังผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง
