11 ก.พ.68 - แพทย์เตือนสติคู่รักเทศกาลวาเลนไทน์ เลือกใช้ ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ ผิด เสี่ยงตั้งครรภ์สูง!
นายกสมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย) ห่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ส่งผลปัญหาการตั้งครรภ์แบบไม่ตั้งใจพุ่งพรวด เตือนคู่รักตระหนักเรื่องวางแผนคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเพราะประสิทธิภาพต่ำ แนะนำทานยาคุมปกติและแผ่นแปะที่ใช้ง่ายกว่า ควบคู่ใส่ถุงยางอนามัยได้ผลดีที่สุด เปิดเว็บไซต์รณรงค์ให้วัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง
ความรักและวันวาเลนไทน์นับเป็นสิ่งที่คู่กัน แต่บางครั้งอาจ “เกินเลย” ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกัน “เซ็กส์” แบบไม่ “เซฟ” นำไปสู่การตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่พึงประสงค์ สาเหตุของภาวะท้องก่อนวัย ทำแท้งเถื่อน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และปัญหาสังคมตามมาอีกมาก
ศาสตราจารย์ นพ.อรรณพ ใจสำราญ นายกสมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย) กล่าวว่า การรณรงค์ให้หนุ่มสาวมีความรักอย่างปลอดภัย ป้องกันปัญหาตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมคือภารกิจที่ท้าทาย หลังพบสถิติการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ส่วนหนึ่งเกิดจากช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันวาเลนไทน์ ดังนั้น หากหลีกเลี่ยงเพศสัมพันธ์ไม่ได้ คู่รักต้องรู้จักการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
•
“ปัจจุบันวัยรุ่นเข้าถึง โซเชียลมีเดีย รวดเร็ว แต่อาจได้ข้อมูลไม่ถูกต้องนัก เมื่อมีเทศกาลพบปะสังสรรค์กันแล้ว มีเซ็กส์ตามมาโดยไม่ได้เตรียมตัว ก็นิยมซื้อยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำมาทานเอง เพราะหาซื้อง่ายตามร้านขายยา แต่หารู้ไม่ว่าถ้าใช้ยาผิดวิธีก็คุมกำเนิดไม่ได้ผล”
•
คุณหมอ แนะนำว่า คู่รักที่พบกันวันสำคัญจึงควรต้องวางแผนล่วงหน้า หรือ ถ้าปกติพบกันเดือนละ 2-3 ครั้งอยู่แล้วใช้วิธีการคุมกำเนิดที่มั่นใจได้ 100% ไปเลยดีกว่า การทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเดือนละ 5-10 เม็ด นอกจากประสิทธิภาพไม่ดีแล้ว ยังมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ บางคนรอบระดูไม่มาหรือมาผิดปกติจึงไม่รู้ว่าตัวเองท้องหรือไม่ท้อง
•
“ในประเทศไทย เราพบวัยรุ่นกินยาคุมฉุกเฉินจำนวนมากแล้วล้มเหลวในการป้องกันตั้งครรภ์ เพราะยานี้มีข้อจำกัดสูงเรื่องระยะเวลา ต้องทานก่อนไข่ตกเท่านั้น ถ้าหลังไข่ตกไปแล้วจะไม่สามารถป้องกันได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็สามารถใช้ได้ แต่ขอให้คู่รักใช้อย่างถูกวิธีด้วย”
เรียนรู้วิธีคุมกำเนิดที่เหมาะกับคู่รัก
ปัจจุบัน วิธีการคุมกำเนิดหลักๆ มีประสิทธิภาพสูงส่วนใหญ่เป็นแบบใช้ฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด แผ่นแปะผิวหนัง ยาฉีด ยาฝัง หรือ แบบไม่ใช้ฮอร์โมน เช่น ถุงยางอนามัย และห่วงอนามัย ซึ่งแต่ละวิธีเราควรศึกษาวิธีใช้อย่างถูกต้อง จึงลดโอกาสความล้มเหลวในการคุมกำเนิด
•
การใช้ “ยาเม็ดคุมกำเนิด” ปกติได้ผลดีแต่ต้องทานทุกวัน ติดต่อกัน 21-24 วัน ข้อเสียก็คือต้องทาน ในช่วงเวลาเดียวกัน สร้างภาระทำให้บางคนหลงลืม และยังมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ เวียนศีรษะ
•
นวัตกรรมใหม่ที่สะดวกกว่า คือการใช้ “แผ่นแปะผิวหนังคุมกำเนิด” ประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์เท่ายาเม็ดคุมกำเนิด ปิดผิวได้นาน 7 วัน หรือเท่ากับ 1 เดือนใช้เพียง 3 แผ่น ไม่เป็นภาระ ให้ผู้หญิงทำทุกวัน แปะร่างกายได้หลายจุด เช่น ต้นแขน แผ่นหลัง หน้าท้อง สะโพก หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำ ข้อเสียก็มีบ้าง เช่น บางคนระคายเคืองบริเวณผิวหนัง เป็นต้น
•
นอกจากนั้น ยังมีการใช้ “ยาฉีด” หรือ “ยาฝังคุมกำเนิด” เหมาะกับการคุมระยะยาว แต่ต้องไปที่สถานบริการทางการแพทย์ มีค่าใช้จ่ายสูง อาการข้างเคียง เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือบางคนน้ำหนักตัวขึ้น ขณะที่ “การใส่ห่วงอนามัย” มีให้เลือกตั้งแต่ 3, 5 และ 10 ปี ผลข้างเคียงคืออาจปวดประจำเดือนได้
•
“ในหนุ่มสาวที่คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์กันหรือมีบ่อยครั้งอยู่แล้ว แนะนำใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมั่นใจได้ อาจพิจารณาใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เป็นแบบ Dual Method เช่น กินยาคุมกำเนิดบวกกับใช้ถุงยางร่วมด้วย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์และลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศ”
•
สร้างเว็บไซต์ให้วัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลถูกต้อง
ปัจจุบันอัตราการเกิดใหม่ของบ้านเราน้อยลงจนหลายคนบอกว่า “ไม่ควรคุมกำเนิดแล้ว” แต่ในข้อเท็จจริง ศาสตราจารย์ นพ.อรรณพ อธิบายว่า “ทางการแพทย์ เรายังพบปัญหาตั้งครรภ์แบบไม่มีคุณภาพในวัยรุ่น คลอดเด็กแล้วไม่สมบูรณ์ การทำแท้งเถื่อน ซื้อยาทำแท้งทางออนไลน์ เกิดผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ต้องออกจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย สูญเสียอนาคตพัฒนาชีวิตต่อไปได้ยาก”
•
สมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย) รณรงค์ให้วัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลวิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง และเลือกใช้แนวทางอย่างเหมาะสม ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาต่อเนื่อง ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2560-2569 พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จน่าพอใจ แต่ก็ยังมีวัยรุ่นอีกกลุ่มใหญ่ที่ยังเข้าไม่ถึง
•
ล่าสุด สมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย) จึงได้จัดทำเว็บไซต์ www.Her-Choices.com เพื่อยกระดับการสื่อสารเรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ถ่ายทอดองค์ความรู้วิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง นวัตกรรมใหม่ ยา และสถานบริการ โดยมีระบบให้คำปรึกษาออนไลน์ทั้งทางการแพทย์และเภสัชกรรม ถือเป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน