X
ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทนจนเป็นแผลทางใจ

ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทนจนเป็นแผลทางใจ

10 ก.พ. 2566
460 views
ขนาดตัวอักษร

เคส “ดิว อริสรา” ถือเป็นสิ่งสะท้อนได้ว่ายังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ต้องทนอยู่กับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ต้องใช้เวลานานกว่าจะรวบรวมความกล้าเปิดเผยออกมา จนเกิดบาดแผลทางใจ ที่ใช้เวลานานกว่าจะหาย ความรุนแรงในครอบครัวจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องทนทั้งผู้ถูกกระทำและผู้ที่พบเห็น ทางเราจึงขอรวบรวมช่องทางขอรับการปรึกษา หรือแจ้งร้องเรียนปัญหาเหล่านี้


นพ.ยงยุทธ วงค์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า กรณีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย จนเกิดปมในใจว่าการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทำร้ายร่างกาย จะสร้างความทรงจำฝังใจได้ ทำให้เกิดอาการหวาดกลัว หวาดผวา ซึ่งต้องได้รับการดูแลบำบัดรักษา เพราะมิเช่นนั้นอาจทำให้การใช้ชีวิตไม่ปกติ บาดแผลทางใจเมื่อเป็นแล้ว ก็จะใช้เวลานานกว่าจะหาย บางคนหวาดผวา บางคนฝันร้าย การที่ผู้ถูกกระทำ ประสบเหตุความรุนแรงในครอบครัว แต่ไม่อาจก้าวพ้นออกจากครอบครัวนั้นได้ สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะมาจากครอบครัวปิด เช่น กลัวการเป็นข่าว หรือการถูกเปิดเผยเรื่องในครอบครัว ทำให้ต้องจำทน


นางสาวธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง เปิดเผยว่า จากสถิติมีผู้หญิงที่ได้รับความรุนแรงในครอบครัว ร้องเรียนเข้ามาที่มูลนิธิ ขอคำปรึกษา และขอความช่วยเหลือปีละ 2 พันกว่าราย แนวโน้มตัวเลขสูงขึ้นทุกปี ซึ่งหลายครั้งผู้หญิงก็ไม่อยากจะเปิดเผยตัวเอง แค่อยากมาขอรับคำปรึกษาก่อนว่าพอจะมีหนทางใดบ้าง


โดยผู้ถูกกระทำแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ที่มากที่สุด 1.กลุ่มผู้หญิงที่ถูกสามี หรือแฟน ที่ใช้ชีวิตด้วยกัน ทำร้าย 2.กลุ่มเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ และ 3.กลุ่มพ่อแม่ที่ถูกลูกทำร้ายร่างกาย โดยมากพบว่าลูกมีอาการจิตเวช ทำร้ายพ่อแม่สูงอายุ ปัจจัยสาเหตุของผู้กระทำที่พบคือมาจากการเลี้ยงดูของผู้ชายที่โตมาในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงมาก่อน ทำให้บ่มเพาะนิสัย การดื่มแอลกอฮอล์ การเล่นอบายมุข ทำให้มีความเครียด แล้วมาลงกับครอบครัว โดยแต่ละปีจากข้อมูลนิธิฯ เก็บไว้ พบว่าปัจจัยจากการดื่มเหล้า ใช้ยาเสพติด จนขาดสติมีการทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต ปีไม่ต่ำกว่า 20-30 คน และปัจจัยความเครียดจากเศรษฐกิจ ที่ไม่รู้จะลงกับใครก็มาลงกับคนในบ้าน


ผอ.มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ผู้หญิงไม่สามารถหลุดออกจากวงจรได้ มีหลายปัจจัย ทั้งจากความรัก คิดว่าสามีจะกลับตัวได้ ความอาย ไม่กล้าบอกใคร และความกลัว จากฝ่ายชายข่มขู่ว่าจะทำร้ายไปถึงคนอื่นๆ ในครอบครัวด้วย และการที่ผู้หญิงไม่ได้หารายได้เอง บางคนต้องพึ่งพิงรายได้จากสามี ทำให้ตัดสินใจยากที่จะออกมาจากความรุนแรง เป็นต้น


ความช่วยเหลือที่ผ่านมา มูลนิธิได้ให้คำปรึกษาให้ผู้หญิงตั้งสติ ให้กำลังใจ และให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน มีศูนย์ช่วยเหลือสตรีที่พร้อมช่วยทั้งรัฐและเอกชน มีกฎหมายที่พร้อมคุ้มครองผู้ที่ถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัว แต่ยอมรับว่าหลายคนก็ไม่ง่ายที่จะออกมาได้ โดย 80% ที่ร้องเรียนเข้ามา สามารถหลุดออกจากวงจรได้แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังทนอยู่ เปรียบปัญหานี้เหมือนภูเขาน้ำแข็ง ที่โผล่ออกมาแค่เพียงยอดเท่านั้นแต่ยังมีคนที่เจอปัญหาเดียวกันแต่ยังไม่ปรากฏตัวอีกจำนวนมาก ยกกรณี “ดิว อริสรา” ที่เพิ่งออกมาเปิดเผย หลังจากผ่านเวลาไปนานกว่า 3 ปี ก็เป็นสิ่งสะท้อนได้ว่ายังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ต้องทนอยู่กับปัญหานี้และไม่กล้าที่จะเปิดเผยออกมา


ทางออกจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัว


หากมีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว สามารถแจ้งได้ทันที ทั้งตำรวจ 191, หน่วยงานเฉพาะ พม. 1300 หรือมูลนิธิเพื่อนหญิง 025131001 จะมีทีมที่พร้อมช่วยเหลือ มีบ้านพักพิงฉุกเฉินให้ออกมาจากจุดนั้นก่อนได้ มีการให้ความช่วยเหลือกฎหมาย และกองทุนช่วยเรื่องอาชีพ เป็นต้น และย้ำอยากฝากข้อมูลไปถึงผู้หญิงว่าหากอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกทำร้ายไม่ต้องทน ยังมีหนทางที่สามารถแก้ไขปัญหา การอดทนที่ต้องอยู่ในภาวะความรุนแรงต่อไปก็จะเจอกับความรุนแรงที่มากขึ้น


ช่องทางกฎหมายในการช่วยดูแลผู้หญิง ยังสามารถไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ ที่มีอยู่ 117 แห่งทั่วประเทศ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดได้ หรือโทรสายด่วน 1157 จากนั้น อัยการจะนัดพบเข้ามาสอบถามรายละเอียด ให้คำปรึกษาข้อกฎหมาย และให้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัว ขอคุ้มครองสวัสดิภาพ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย ศาลจะสั่งพิจารณาห้ามสามี หรือบุคคลนั้นเข้าใกล้ หากมีบ้านญาติที่ไปอยู่ได้ศาลจะสั่งห้ามสามี หรือบุคคลนั้นเข้าใกล้ตัว หรือแม้แต่คนที่ไม่มีที่ไป ต้องอยู่บ้านหลังเดียวกัน ศาลจะมีคำสั่งออกมาเลยว่าห้ามฝ่ายชายเข้าใกล้ในรัศมีกี่เมตร ถ้าศาลสั่งให้คุ้มครองสวัสดิภาพแล้ว ฝ่ายชายไม่ปฏิบัติตาม อัยการสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับไปขัง เพื่อบังคับให้เป็นคนดีของครอบครัวได้


นอกจากนี้ปัจจุบันประเทศไทยมี พ.ร.บ.ป้องกันและแก้ไขความรุนแรงในครอบครัว ที่แม้ถูกกระทำรุนแรง แต่ก็เปิดช่องให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ โดยไม่จำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนที่ทำงาน หากพบเห็นความรุนแรง ตาม พ.ร.บ.นี้ สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้ 


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)