20 ม.ค.65 – อยู่ในกระแสข่าวการเมือง ที่กลับมาร้อนแรงชวนติดตามอีกครั้ง เมื่อ 21 ส.ส. นำโดย ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่า ถูกขับออกตามมติของพรรคพลังประชารัฐ แล้วมีความต่างกันอย่างไรการที่ ส.ส. “ลาออก กับถูกขับออก” จากพรรคการเมือง
•
กระแสการเมืองกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อสปอร์ตไลท์ส่องไปที่พรรคใหญ่ อย่างพรรคพลังประชารัฐ ผู้นำเสียงข้างมากของฟากรัฐบาล
•
ที่ปัญหาภายในพรรคส่งสัญญาณออกมาอีกครั้ง ต่อเนื่องจากผลที่ไม่เป็นไปตามคาดในการเลือกตั้งซ่อมของ 2 เขตพื้นที่ภาคใต้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
•
แรงกระเพื่อมส่งตรงถึงร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกพรรค ที่สมาชิกพรรเรียกร้องให้รับผิดชอบในความพ่ายแพ้ครั้งนี้
•
จนกระทั้งคืนของวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา กระแสดังชัดขึ้นว่าพรรคพลังประชารัฐ มีมติขับ 21 ส.ส. นำโดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรค
•
นำมาสู่คำถามที่ว่า “ระหว่างการลาออก และการขับออก” จากพรรคการเมือง มีความต่างกันอย่างไร?
•
เมื่อดูตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 101 ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง มีรายละเอียด 13 ข้อย่อย ยกตัวอย่างเช่น เสียชีวิต, สภาครบวาระ, ยุบสภา
•
การลาออกจากพรรค
การลาออกมี 2 กรณี คือ
> ตามข้อย่อยที่ 3 ระบุไว้ว่า ลาออก หมายถึง การลาออกจากการเป็น ส.ส. ซึ่งจะทำให้สถานภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงทันที
> ส่วนในข้อย่อยที่ 8 การลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก หมายความว่า ส.ส. รายนั่น จะลาออกจากพรรคการเมืองหนึ่งแล้วไปสังกัดอีกพรรคหนึ่งไม่ได้ เนื่องจากเมื่อลาออกจากพรรคการเมืองที่เป็นสมาชิกแล้ว จะทำให้ความเป็น ส.ส.จะสิ้นสุดลงทันที เช่นกัน
•
การขับออกจากพรรค
ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 101 ยังเปิดช่อง มี 2 กรณี ที่ ส.ส. หากจะย้ายจากพรรคหนึ่งไปอีกพรรคหนึ่งได้ โดยไม่สิ้นสุดสถานภาพความเป็น ส.ส. ต้องเข้าเกณฑ์กติกาดังนี้
•
1. ถูกพรรคการเมืองเดิมขับออกจากพรรค นั่นคือ พรรคมีการลงมติด้วยคะแนน 3 ใน 4 ให้พ้นจากพรรค โดยจะมีเวลา 30 วันในการหาพรรคสังกัดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (9) ใจความว่า ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงเมื่อพ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่เป็นสมาชิก ตามมติของพรรคการเมืองนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น
•
ในกรณีเช่นนี้ ถ้า ส.ส. ผู้นั้นมิได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30 วันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่พ้น 30 วันดังกล่าว
•
2.พรรคการเมืองเดิมถูกยุบ ส.ส.จะมีเวลา 60 วันในการหาพรรคสังกัดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10) มีใจความว่า ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงเมื่อขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง แต่ในกรณีที่ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองเพราะมีคําสั่งยุบพรรคการเมือง ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นเป็นสมาชิก
และ สส.ผู้นั้นยังไม่อาจเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นได้ภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีคําสั่งยุบพรรคการเมืองกรณีเช่นนี้ ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบกําหนด 60 วันนั้น
•
หากจะสรุปความแตกต่าง ของ การลาออกเอง กับ ถูกขับให้พ้นพรรค นั่นคือเรื่องของสถานภาพความเป็น ส.ส. นั่นเอง
ลาออกเอง เท่ากับ พ้นสภาพการเป็น ส.ส.โดยทั้นที
•
หากถูกขับให้พ้นพรรค เท่ากับว่า จะคงยังเป็น ส.ส. อยู่ต่อไป แต่ต้องหาพรรคใหม่ให้ได้ภายใน 30 วัน หรือในกรณีถูกยุบพรรคต้องหาพรรคใหม่ให้ได้ภายใน 60 วัน
•
ซึ่งน่าสนใจว่า เสียงของ ส.ส. ที่หายไปจากพรรคพลังประชารัฐ จะกระทบต่อความมั่นคงของฟากรัฐบาลหรือไม่ หรือจะส่งผลอย่างไรต่อการต่อรองในตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลนี้หรือไม่