ถึงตรุษจีน สิ่งที่ทำกันทุกปีนอกจากไปไหว้เจ้าคือ ไปแก้ชง เป็นความเชื่อแบบหมู่มวลมหาประชาชนว่า ถ้าเกิดในปีนักษัตรที่ถูกระบุว่า ชง ต้องไปแก้ ถ้าไม่แก้ จะเกิดเรื่องไม่ดี ก่อนและหลังวันตรุษจีนจึงมีภาพวัดจีนคราคร่ำไปด้วยผู้คน เพื่อไป แก้ชง
การ แก้ชง ที่เราปฏิบัติกันตลอดมา วิธีทำ คือ ไปเขียนวันเดือนปีเกิด แล้วเอาไปฝากให้เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ ไท้ส่วยเอี้ย ช่วยคุ้มครองดวงชะตาให้ตลอดปี
ทุกปีจะมีปีนักษัตรที่ ชง 4 นักษัตร หมอดูจะบอกว่าใครชง 100 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือ 25 เปอร์เซ็นต์ บางทีก็เรียกว่าชงตรง ชงร่วม แล้วแต่จะเรียกกันไป
องค์ไท้ส่วยที่ศาลเจ้าหลีตี๊เมี้ยว
เรื่องชง ตามหลักการไม่มีการชงกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะความดีหรือความไม่ดีวัดไม่ได้หรอกว่าเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ มีแต่มากหรือน้อย การเอาดวงชะตาไปฝาก จริง ๆ ก็คือ การ กัน ไม่ให้ ชง กันไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดี กันชง ไม่ใช่การแก้ชง ถ้าจะแก้กันจริงต้องไปเกิดใหม่ เพื่อเปลี่ยนวันเกิด ซึ่งทำอย่างนั้นไม่ได้ เราทำกันชง กันทุกปี คนหนึ่ง ต้องไปพิธีนี้ อย่างน้อย ทุก 2-3 ปี แก้ชงบ่อยๆ เดี๋ยวๆ ก็ชงอีกแล้ว
ป้ายชื่อองค์ไท้ส่วยปีเถาะ
ในเมื่อหลักการของการกันชง คือการไปฝากดวงกับ องค์ไท้ส่วย ให้ท่านคุ้มครอง แสดงว่า เราดีลกับท่าน ดังนั้นจึงไปมีวิธีการหนึ่งที่ กันชงได้ และช่วยให้เกิดความเฮงตลอดทั้งปี ทำได้ง่ายๆ ด้วยการ นำภาพของไท้ส่วยประจำปีนั้นเก็บไว้กับตัวเองเพื่ออธิษฐานขอพร เก็บไว้ 1 ปี พอขึ้นปีใหม่ก็ลบภาพไท้ส่วยที่เซฟไว้ เอาภาพไท้ส่วยองค์ใหม่มาใส่แทน จะดีแค่ไหนที่เรามีไท้ส่วยอยู่กับตัว คุ้มครองเราตลอดเวลา ไม่ต้องไปวัดจีนหรือศาลเจ้าถึงจะอธิษฐานได้ เราไหว้ได้ตลอดเวลา นี่คือ การกันชง หรือ แก้ชงโดยไม่ต้องไปแก้ชง
*ไท้ส่วยคือชื่อตำแหน่งเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา มีเทพ 60 องค์ ผลัดกันมาเป็นไท้ส่วยในแต่ละปี ปีละองค์ ทุกปีเวลาแก้ชงที่ไปยืนปัดตัว ก็คือไปอธิษฐานและปัดตัวองค์หน้าไท้ส่วย