13 ก.ค.65 - ประเพณีแห่เทียนพรรษา หลวมรวมวิถีชุมชนแห่งเมืองอุบลฯ สู่อันซีนระดับโลก
ปีนี้วันเข้าพรรษา ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 และวันนี้เองชาวพุทธนิยมแห่เทียนพรรษานำไปถวายวัดตามแต่ละชุมชน ตามประเพณีดั้งเดิมที่สืบสานต่อกันมา แน่นอนว่าหากพูดถึงประเพณีแห่เทียนพรรษา หลายคนน่าจะเอ่ยถึงการแห่เทียนพรรษาที่ขึ้นชื่อที่สุดไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังดังไกลระดับโลก นั้นก็คือ ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี ที่นอกจากจะมีความสำคัญต่อชาวอุบลฯ แล้ว ประเพณีแห่เทียนฯ ของที่นี่ยังเป็นอันซีนที่สร้างชื่อเสียงที่ได้รับการพูดถึงของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ยิ่งใกล้ถึงวันสำคัญวันเข้าพรรษา แต่ละชุมชน ทั่ว จ.อุบลราชธานี ยิ่งเร่งมือสร้างขบวนเทียนพรรษาของชุมชนตัวเองให้เสร็จทันงานแห่เทียนพรรษา ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังห่างหายไปกว่า 2 ปี จากการระบาดของโควิด-19 ณ ทุ่งศรีเมือง กลางเมืองอุบลฯ ที่จะกลับมาเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ของต้นเทียนพรรษา ที่ต่อแถวยาวเป็นขบวนอย่างยิ่งใหญ่
พ่อเสา พรมนิกร ปราชญ์ชุมชนวัดพระธาตุหนองบัว เล่าให้ฟังว่า นอกจากเรื่องของการแข่งขัน ประเพณีแห่เทียนพรรษา ยังมีสิ่งสำคัญมากกว่านั้น นั่นคือการสะท้อนถึงวิถีชุมชนของชาวอุบลราชธานี และชาวอีสาน ที่ครอบครัวชุมชน และวัดจะเชื่อมโยงด้วยกัน ชุมชนไม่ว่าจะมีฝีมือ มีแรงมาก แรงน้อย มีกำลังมากกำลังน้อย ก็สามารถมาลงมือลงแรง หรือลงปัจจัย แม้แต่น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เข้ามาช่วยกันก่อร่างสร้างต้นเทียนประจำของแต่ละชุมชนขึ้นมา
ซึ่งในความสวยงามนี้เอง ยังแฝงไปด้วยทั้งศาสตร์ และศิลป์ ศาสตร์ในการนำวิชาความรู้ของบรรพบุรุษ ผสานยุคสมัยใหม่ สร้างเป็นต้นเทียนอันวิจิตร และศิลปะต้องอาศัยฝีมือมาร้อยเรียงเรื่องราวชุมชน และพุทธประวัติลงบนต้นเทียน ที่พร้อมส่งลงชิงชัยประจำปี รวมถึงการส่งต่อมรดกภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ให้ช่วยกันรักษา และสืบสานเรื่องรวมดี ๆดำเนินต่อไปไม่มีสิ้นสุด
วันนี้เอง ได้เห็นเยาชนคนรุ่นใหม่ ที่เดินเข้ามาที่วัดพระธาตุหนองบัว บ้างก็ช่วยกันทำดอกเทียน ร้อยเป็นสาย สำหรับเตรียมประดับขบวนแห่ หรือจะเดินเข้ามาหาความรู้จากช่างฝีมือ หรือคนเฒ่าคนแก่ ที่รอถ่ายทอดความรู้ส่งต่อเรื่องราวสู่คนรุ่นใหม่ ให้เข้าใจเรื่องราวผ่านต้นเทียนพรรษาแบบนี้
ขยับไปไม่ไกลนัก วัดบูรพาราม ก็คึกคักไปทั้งชาวบ้าน และผู้ใหญ่ในพื้นที่ มาลงแรงคนละไม้ละมือ ปรับแต่งต้นเทียนตามที่จินตนาการไว้ มือหลอมเทียน มือแกะเทียน หรือจะเป็นมือแกะแผ่นเทียน ส่งต่อให้ช่างฝีมือที่คัดสรรมาแล้ว นำแผ่นเทียนติดลงบนตัวนาค ตัวครุฑ หรือเหล่าเทวดา จนออกมาสวมงามตามท้องเรื่อง จนกว่าจะถึงเวลาเคลื่อนต้นเทียนลงสู่สนามสู่สายตาทุกคน
เรายังเห็นภาพเหล่านี้ได้เกือบทุกชุมชน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง สายตาที่มุ่งมั่น สองมือที่แข็งแรง แต่แผ่วเบา ให้การติดแผ่นเทียนแน่น แต่สวยงามที่สุด ส่วนนางรำรุ่นใหญ่ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ฝึกฝ้อน อย่างขะมักเขม้น รอนำหน้าขบวนแห่ ที่เป็นสีสันเฉพาะถิ่น ที่ 1 ปี จะมีครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องใส่ประเพณีแห่เทียนพรรษาจ.อุบลราชธานี ลงบนปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ฉะนั้นแล้ว ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ซึ่งปีนี้ จ.อุบลราชธานี ใช้ชื่องานว่า “121 ปี ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-17 กรกฎาคม 2565 ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง และชุมชนคุ้มวัดต่าง ๆ ทั่งเมืองอุบลราชธานี ซึ่งชาวอุบลราชธานีและ ทุกภาคส่วน ต่างรอคอยและเตรียมพร้อมรับการกลับมาจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอย่างยิ่งใหญ่ เต็มรูปแบบอีกครั้ง
กำหนดการงานแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี
วันที่ 13 กรกฎาคม
- ช่วงเช้าร่วมพิธีอัญเชิญเทียนหลวงพระราชทานเเละผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน
- ในช่วงเย็นร่วมพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาฯ พร้อมการแสดงแสงสีเสียง
- ขบวนแห่เทียนภาคกลางคืน สวยงามตระการตา ในชื่อชุดการแสดง “ลูกอีสาน” ณ ปรำพิธีหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม
14 กรกฎาคม
- ชมขบวนแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ที่ยิ่งใหญ่อลังการ
- มีต้นเทียนประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และประเภทโบราณ เข้าร่วมขบวนแห่ในปีนี้ถึง 40 ต้น
- พร้อมขบวนรำอันสวยงามตระการตา
- ขบวนแห่เทียนภาคกลางคืน ชื่อชุดการแสดง “ลูกอีสาน” ณ ปรำพิธีหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม
