คนไทยกำลังรอที่จะฉีกวัคซีนโควิด-19 ความหวังที่จะต่อสู้กับโรคระบาด หากย้อนไปคนไทยสู้กับโรคระบาดด้วยการฉีดวัคซีนมาตั้งแต่ปี 2378 สมัยรัชกาลที่ 4โดยหมอบลัดเลย์ ช่วงแรกหมอบลัดเลย์เอาพันธุ์หนองฝีจากวัวมาจากอเมริกา ต่อมาเมื่อเริ่มปลูกฝีแล้วจึงนำเอาหนองฝีจากคนที่ได้รับการปลูกฝีสำเร็จมาพัฒนา 10 ปี ต่อมา หมอบลัดเลย์ ประสบความสำเร็จในการฉีดหนองฝีจากคนป่วยไข้ทรพิษเข้าไปในวัวทำให้เราปลูกฝีได้เองได้ในปี 2485 จนปัจจุบัน เรามีวัคซีนป้องกันโรคร้ายได้ถึง 10 โรค คือ วัณโรค คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน ตับอักเสบชนิดบี คางทูม ไข้สมองอักเสบเอจี
ส่วนการเกิดขึ้นของสถานเสาวภา เกิดขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรืองอันน่าเศร้าขึ้นเจ้านายน้อยๆ วันหนึ่งขณะที่หม่อมเจ้าหญิงบันศิริกานต์ ดิศกุล หรือท่านหญิงเภา พระธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ กำลังวิ่งเล่นกับพระญาติในช่วงหัวค่ำ มีสุนัขตัวหนึ่งหลุดเข้ามากัดท่านหญิงเภา เป็นแผลลึก หลังจากเกิดเหตุมีผู้จับสุนัขตัวนั้นได้และตีจนตาย แล้วนำศพไปตรวจ
หลังเกิดเหตุพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบเรื่อง มีพระราชวินิจฉัยให้นำท่านหญิงเภาส่งไปรักษาที่ฮ่องกง แต่ปรากฎว่าเรือที่จะไปออกเดินทางไปก่อนแล้ว แม้มีความพยายามจะส่งตัวไปรักษาแต่ท่านหญิงเภาวิงวอนขออยู่รักษาในเมืองไทย แม้ทางสถานตรวจเชื้อในเวลานั้นจะรายงานว่าสุนัขตัวต้นเหตุเป็นสุนัขบ้าจริง
เวลาผ่านไป 3 เดือน ช่วงงานแรกนาขวัญซึ่งสมัยนั้นจัดงานที่ทุ่งพญาไท ท่านหญิงเภาเกิดอาการเป็นไข้ตัวร้อน จนอาการกำเริบถึงขั้นสิ้นชีตักษัยในที่สุด เหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นเหตุให้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พยายามเรี่ยรายเงิน โดยเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นปฐมเหตุเพื่อริเริ่มสร้างสถานปาตุรสภา หรือสถานทำการผลิตและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าขึ้น จนกลายเป็น สถานเสาวภาในที่สุด ในปี 2463