X

ลูกจ้างต้องรู้! “เงินชดเชยเลิกจ้าง” ต้องได้เท่าไหร่

4 ก.ค. 2565
5210 views
ขนาดตัวอักษร

จากข่าวของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งที่เลิกจ้างพนักงานแบบฟ้าผ่าและไม่ได้รับเงินชดเชยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า  ถ้าหากโดนเลิกจ้างกะทันหัน เราต้องได้เงินชดเชยเท่าไหร่?


ลูกจ้างต้องรู้! “เงินชดเชยเลิกจ้าง” ต้องได้เท่าไหร่เมื่อถูกให้ออกจากงานโดยไม่สมัครใจและไม่มีความผิดใด สำหรับเงินชดเชยที่ได้จะขึ้นอยู่กับเงินเดือนและอายุงาน


พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เขียนบทบังคับให้นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง โดยข้อบังคับเหล่านี้กฎหมายเขียนขึ้นเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของลูกจ้าง ไม่สามารถตกลงกันเป็นอย่างอื่นได้ นายจ้างไม่สามารถอ้างเหตุผลว่า ไม่เคยตกลงกันเรื่องนี้ หรือตกลงกันที่จะจ่ายค่าชดเชยน้อยกว่านี้ได้
 
โดยค่าชดเชยตามกฎหมายอาจจะแบ่งได้เป็นสามประเภท ดังนี้
 

1. ค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้างกรณีทั่วไป


  • ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี ได้รับเงินชดเชย 30 วัน (1 เดือน)
  • ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี ได้รับเงินชดเชย 90 วัน (3 เดือน)
  • ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปี ได้รับเงินชดเชย 180 วัน (6 เดือน)
  • ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี ได้รับเงินชดเชย 240 วัน (8 เดือน)
  • ทำงานครบ 10 ปีขึ้นไป ได้รับเงินชดเชย 300 วัน (10 เดือน)
  • ทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป ได้รับเงินชดเชย 400 วัน


2. ค่าเสียหายจากการไม่บอกกล่าวล่วงหน้า
 
สำหรับกรณีที่การจ้างงานไม่ได้มีกำหนดระยะเวลาชัดเจนว่า จะสัญญาจ้างจะสิ้นสุดเมื่อไร หรือกรณีที่สัญญาจ้างงานมีกำหนดเวลาชัดเจนแต่นายจ้างต้องการเลิกจ้างก่อนถึงกำหนด พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 17 วรรคสอง กำหนดว่า นายจ้างจะบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้
 

หากนายจ้าง "ไล่ออก" ทันทีโดยไม่บอกล่วงหน้า ถือว่า นายจ้างทำผิดสัญญาจ้างแรงงาน นอกจากจะต้องจ่ายค่าชดเชยจากการเลิกจ้างตามมาตรา 118 แล้ว ยังต้องจ่ายค่าเสียหายจากการไม่บอกกล่าวล่วงหน้าด้วย ตามมาตรา 17/1 เป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้างในอัตราที่ลูกจ้างได้รับอยู่อัตราสุดท้าย คิดเต็มจำนวนเสมือนหนึ่งว่า นายจ้างได้บอกกล่าวล่วงหน้าให้เตรียมตัวก่อนออกจากงาน แต่ค่าเสียหายจำนวนนี้จะคิดอย่างมากที่สุดไม่เกินค่าจ้างสามเดือน

3. ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
 
ปัญหาเรื่องการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม หมายถึง การเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ไม่ใช่ความจำเป็นของกิจการ เช่น การเลิกจ้างเพราะเกิดจากความรู้สึกไม่พอใจกันในเรื่องส่วนตัวระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง หรือการจงใจกลั่นแกล้งกันให้เดือดร้อน หรือการให้ลูกจ้างออกเนื่องจากเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน หรือเป็นกรรมการสหภาพแรงงานซึ่งเรียกร้องค่าจ้างหรือสวัสดิการเพิ่มเติม
 
เรื่องการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมไม่ได้เขียนอยู่ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน โดยตรง แต่เป็นหลักในการวิธีการพิจารณาคดีเมื่อคดีขึ้นสู่ศาลแรงงาน ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 49 ที่กำหนดว่า กรณีที่นายจ้างเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้ศาลสั่งให้รับลูกจ้างกลับเข้าทำงานต่อไปในอัตราค่าจ้างเดิม แต่ถ้าหากศาลเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายไม่อาจทำงานร่วมกันต่อไปได้ ก็ให้สั่งให้นายจ้างจ่ายค่าเสียหายแทนการรับกลับเข้าทำงาน
 
สำหรับกรณีกิจการที่ต้องปรับตัวขนานใหญ่หรือได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนต้องลดต้นทุน หรือปรับโครงสร้าง และต้องเลิกจ้างลูกจ้างจำนวนหนึ่ง อาจจะไม่ใช่กรณีการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
 
 
ถ้าไล่ออกเพราะลูกจ้างทำผิด ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ไม่ได้มีแค่บทบังคับให้นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยเท่านั้น ยังมีบทยกเว้นไว้ด้วยว่า นายจ้างอาจจะไล่ออกได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆ หากเป็นกรณีที่ต้องเลิกจ้างเพราะความผิดจากฝ่ายลูกจ้างเอง ตามมาตรา 119

ขอบคุณข้อมูล จาก : iLAW.or.th



Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)