ปัญหาสายไฟลงดิน ถูกเอามาพูดถึงทุกครั้งที่เกิดเหตุไฟไหม้ หรือมีคนดังออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ ความจริงของเรื่องนี้ ทำความเข้าใจง่ายๆ ต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ไม่เกี่ยวกับ คือ สายไฟฟ้า กับสายสื่อสาร สายสองอย่างนี้ปรากฏอยู่บนเสาไฟฟ้าก็จริงแต่ คนละเรื่อง สายไฟฟ้า เป็นหน้าที การไฟฟ้านครหลวง เอาลงดิน สายสื่อสาร เป็นหน้าที่ของ กรุงเทพมหานคร , สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงดิจิทัล ที่ต้องช่วยกันคิดเรื่องเอาสายสื่อสารลงดิน
เรื่องสายไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้งบประมาณจากคณะรัฐมนตรี และมีแผนเอาสายไฟลงดินเรียบร้อย ปัญหาที่เอาลงดินยังไม่เรียบร้อย คือ สายสื่อสาร คนที่เกี่ยวข้องกับการเอาสายสื่อสารลงดิน นอกจาก กทม. กสทช.ก็คือบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นที) (เอ็นทีเกิดจากการรวมบริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับ บริษัทีโอที จำกัด(มหาชน) (องค์การโทรศัพท์ หรือ ทศท. เดิม ) ก่อนหน้านี้บริษัททีโอทีเป็น ผู้ดูแลท่อร้อยสายโทรศัพท์ทั่วกรุงเทพฯ เมื่อทีโอททีกลายเป็นเอ็นที ความรับผิดชอบเรื่องท่อร้อยสายจึงมาอยู่ภายใต้การดูแลของเอ็นทีด้วย
การเอาสายสื่อสารลงทุนในยุคผู้ว่าราชการกทม.คนที่แล้ว ได้มอบให้บริษัทกรุงเทพธนาคม เป็นคนดำเนินการ ซึ่งกรุงเทพธนาคมได้เลือกบริษัทแห่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการ บริษัทนี้เป็นบริษัทลูกของบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่รายหนึ่ง เมื่อบริษัทที่ได้รับเลือกจากกรุงเทพธนาคมจะดำเนินการ ปรากฏว่า เอ็นที ได้ไปนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า การนำสายสื่อสารลงดิน ควรเป็นความรับผิดชอบของเอ็นที เพราะเอ็นทีมีโครงสร้างพื้นฐานเป็นท่อร้อยสายขององค์การโทรศัพท์เดิมอยู่แล้วแค่เพิ่มเติมให้ครบครอบคลุมถนนในกทม.ไม่น่าจะมีปัญหา
คณะรัฐมนตรีมอบหมาย กสทช. ให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหา ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีเอีเอส) คนก่อนหน้านี้ ซึ่งมีความเห็นร่วมกันกับกสทช.เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็ว ขอตรงไหนถนนใดที่เอ็นทีเอาสายลงดินได้ให้ดำเนินการไปเลย ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของกสทช. ดีอีเอส กทม. มาช่วยกันหาทางออก
ปัญหามันน่าจะจบแต่ไม่จบอีก ตรงที่การเอาสายสื่อสารลงดิน ไม่ใช่ว่ามีท่อแล้วเอาสายมุดลงดินได้เลย การเอาสายสื่อสรลงไปในท่อของเอ็นทีต้องมีค่าเช่าท่อง โดยอัตราค่าเช่าท่ออยู่ที่ กิโลเมตรละ 7,000 บาท (ราคานี้ลดแล้วเดิมอยู่ที่ 9,000 บาท) นี่เองที่ทำให้ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมแทบทุกเจ้ามองว่าเป็นต้นทุนค่อนข้างสูง ต้องไม่ลืมว่าถนนในกรุงเทพฯมีเป็นร้อยๆ สายและยาวหลายกิโลเมตร
เรื่องสายลงท่อ หาข้อสรุปไม่ได้จนเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีดีอีเอส มีการเปลี่ยนบอร์ดกสทช. ชุดใหม่ จนมาถึงการมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครท่านใหม่ และล่าสุด เรื่องสายลงดินกลับมาฮอตฮิตอีกครั้ง เมื่อเกิดไฟไหม้สำเพ็ง แม้สาเหตุ ไม่ได้เกิดจากสาเหตุ แต่สายสื่อสารก็มีส่วนเอี่ยวทุกครั้ง จนล่าสุด เมื่อรัฐมนตรีดีอีเอส คนปัจจุบันไปทำกิจกรรมเอาสายสื่อสารลงดินย่านสุขุมวิท ในช่วงเวลาหลังเหตุไฟไหม้สำเพ็ง ท่านรัฐมนตรีแจ้งว่าจะส่งเทียบเชิญผู้ว่าฯ "ชัชชาติ" มาหารือเรื่องเอาสายสื่อสารลงดิน โดยครั้งนี้รับปากจะหางบประมาณที่ใช้ทำท่อร้อยสายรอบกรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนที่ปรากฏเป็นข่าวที่ 20,000 ล้านบาท เชื่อว่าถ้าได้งบประมาณตรงนี้มาให้เอ็นทีทำ น่าจะทำให้ราคาค่าเช่าท่อลดลง โดยครั้งนี้จะให้กทม.เคลียร์ใจให้การดำเนินการที่ค้างอยู่มาเริ่มต้นกันใหม่ ซึ่งเรื่องที่ค้างคากับกรุงเทพธนาคมจะจบง่ายจริงหรือ ? ? ? น่าติดตามว่า เรื่องสายสื่อสารลงดินจะได้ลงสมใจหรือไม่ หรือว่าจะเป็นมหากาพย์จบไม่ได้อีกตามเคย เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องพิสูจน์ฝีมือกันก็คราวนี้สายสื่อสาร คงไม่หมู ดูๆ ไป น้องๆ สายรถไฟฟ้ากันเลยทีเดียว