13 ส.ค.68 - “สุดาวรรณ” ชู “RSP Next” ยกระดับอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคให้เป็น “ศูนย์กลางธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับพื้นที่” ปลดล็อคโอกาสให้กับคนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นพร้อมสนับสนุน Deep Tech Startup สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้ถึง 62,813.83 ล้านบาท
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดงาน RSP NEXT: “ก้าวใหม่” อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค - พลังวิทย์สู่ “อนาคตไทยเท่าเทียม” พร้อมมอบนโยบายในงาน อว.แฟร์ 2025 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. และเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 44 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วม
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั่วประเทศและพันธมิตรได้ร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม เพื่อสร้างรากฐานของประเทศด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในศตวรรษที่ 21 ความสำเร็จของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ได้สะท้อนบทบาทของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคในฐานะกลไกขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรม
•
รมว.กระทรวง อว. กล่าวต่อว่า สำหรับวาระสำคัญของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคภายใต้แนวคิด “RSP Next : ก้าวใหม่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค – พลังวิทย์สู่อนาคตไทยเท่าเทียม” คือการสร้างพลัง สร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและโอกาสในสังคม อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงองค์ความรู้จากสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันการวิจัยสู่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs และ Startup ผ่านบริการด้านเทคโนโลยี ห้องปฏิบัติการ งานวิจัยร่วม และการสนับสนุนจากภาครัฐ
•
“ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็ว กระทรวง อว.ได้ชูนโยบาย “สร้างปัญญา เปิดโอกาส สร้างอนาคตไทย” มุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนทักษะสูง สนับสนุน Deep Tech Startup ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริม Soft Power และดำเนินนโยบาย 1 มหาวิทยาลัย 1 ภารกิจเพื่อท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น แนวคิด “RSP Next” จึงไม่ใช่เพียงการต่อยอดขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่คือการยกระดับอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคให้เป็น “ศูนย์กลางธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับพื้นที่” เพื่อปลดล็อคโอกาสให้กับคนทุกกลุ่ม สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็น โดยมีกระทรวง อว. เป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนร่วมกับทุกภาคส่วน ดิฉันจะขอร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง และเชื่อมั่นว่าก้าวใหม่ของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน”
ด้าน ศ.ดร.ศุภชัย ได้นำเสนอ “ความสำเร็จที่ผ่านมาและทิศทางการขับเคลื่อนอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคในอนาคต” ว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงภาคส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันทั้งภาคเอกชนและชุมชนทุกระดับ ภาคการศึกษาทั้งนักวิจัยและทรัพยากรในมหาวิทยาลัย และภาครัฐบาลที่สนับสนุนระบบนิเวศนวัตกรรมทั้งในระดับประเทศและระดับสากล การดำเนินงานของอุทยานวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 ปี ได้สร้างผลกระทบทางเศรฐกิจและสังคมแต่ละภูมิภาค โดยมีจำนวนผู้ประกอบการ ที่ได้รับบริการจากทางอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 28,201 ราย ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีที่ได้รับการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน 2,441 ราย เกิดการจ้างงานถึง 15,674 ราย สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจถึง 62,813.83 ล้านบาท
“ก้าวต่อไปของ RSP อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคต้องการที่จะเป็นกลไกในการนำพลังเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อขับเคลื่อนและยกระดับเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคด้วยนวัตกรรมเป็นศูนย์กลางการให้บริการธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับพื้นที่ (Regional Innovation Business Hubs) และมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย มุ่งผลักดันและสนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างกำลังคนคุณภาพ ขับเคลื่อนนวัตกรรมและยกระดับศักยภาพประเทศสู่อนาคตดิจิทัลสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีเครือข่าย 44 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย และกำลังได้รับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเสริมความเข้มแข็งการให้บริการในแต่ละภูมิภาค”
ก้าวใหม่ของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค จะสร้างการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจอย่างเท่าเทียมของทั้งภาคเอกชนและชุมชนทุกระดับ ภาคการศึกษาทั้งนักวิจัยและทรัพยากรในมหาวิทยาลัยและภาครัฐบาลผ่านการให้บริการแบบ national platform ซึ่งจะทำให้ได้รับบริการระดับประเทศ ไม่ว่าจะเข้ารับบริการจากภูมิภาคใดก็ตาม การให้บริการแบบ national platform จะทำให้มีการเพิ่มอัตราการจ้างงานและโอกาสทางอาชีพ ผ่านการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและเทคโนโลยี เกิดการพัฒนาในพื้นที่อย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม อุทยานฯ จะมุ่งมั่นขยายเครือข่ายความร่วมมือระดับสากลและโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนพร้อมกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจจากระดับจังหวัด (GPP) สู่ระดับประเทศ (GDP) เพื่อที่เราจะเป็นพลังใหม่ในการสร้างอนาคตไทยให้เท่าเทียม