อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น หลังมีรายงานการพบ "เสือดำ" หรือ "เสือดาว" ที่มีลักษณะขนเป็นสีดำสนิท ออกมาอวดโฉมทักทายนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมสัตว์ป่าในระยะใกล้ สร้างความประทับใจและความประหลาดใจให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น
เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวให้ชมสัตว์ป่าอย่างระมัดระวัง โดยไม่ส่งเสียงดัง และรักษาระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสัตว์ป่า ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับสัตว์ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
การปรากฏตัวของเสือดำในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวที่น่าจดจำของนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสัญญาณที่ดีของการทำงานอนุรักษ์ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าทุกคนที่ร่วมกันดูแลผืนป่าแห่งนี้ให้คงความสมบูรณ์ต่อไป

เสือดำเกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เรียกว่า melanism (ภาวะเมลานิซึม) ทำให้มีขนสีดำเข้ม ภาวะนี้เกิดจากยีนด้อยที่ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเกินปกติ โดยเฉพาะในแถบเอเชียและแอฟริกา เสือดาวที่มีภาวะเมลานิซึมจะมีขนสีดำสนิท ซึ่งทำให้ถูกเรียกว่า เสือดำ (black panther)
ส่วนในทวีปอเมริกา เสือจากัวร์ที่มีภาวะนี้ก็จะถูกเรียกว่าเสือดำเช่นกัน การอนุรักษ์เสือดำจึงเท่ากับการอนุรักษ์สายพันธุ์เสือดาวและเสือจากัวร์ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามมากมาย เช่น
การสูญเสียถิ่นที่อยู่: ป่าไม้ถูกทำลายเพื่อทำการเกษตรและขยายตัวของชุมชน ทำให้พวกมันไม่มีที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร
การรุกล้ำและล่า: พวกมันมักถูกล่าเพื่อเอาหนัง กระดูก และชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปขายในตลาดมืด
การบังคับใช้กฎหมาย: มีการออกกฎหมายที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการล่าและการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย
การวิจัยและติดตาม: นักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น กล้องดักถ่าย (camera traps) เพื่อศึกษาพฤติกรรม จำนวนประชากร และการเคลื่อนที่ของพวกมัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการวางแผนการอนุรักษ์ การให้ความรู้แก่ชุมชน: องค์กรต่าง ๆ พยายามทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้าใจในความสำคัญของการอนุรักษ์ และหาวิธีลดความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า
ในประเทศไทยเองก็มีการศึกษาเสือดาวและเสือดำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าใหญ่ เช่น ป่าตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของพวกมัน การอนุรักษ์เสือดำและเสือดาวจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้สัตว์ผู้สง่างามเหล่านี้ยังคงอยู่คู่กับผืนป่าของเราต่อไป