ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช นำทีมลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง พื้นที่อำเภอชะอวด และอำเภอเชียรใหญ่ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเต็มกำลังความสามารถ
วันนี้ (27 ส.ค. 66) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ผ่านมา นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ไปอำนวยการและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อำเภอชะอวดและอำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง 3 จุด ประกอบไปด้วย จุดที่ 1 หมู่ที่ 8 ตำบลควนเคร็ง อำเภอชะอวด จุดที่ 2 หมู่ที่ 11 ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ และจุดที่ 3 หมู่ที่ 12 ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังระดมกำลังพลและอุปกรณ์ทุกชนิดเพื่อดับไฟอย่างเต็มที่
นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าในขณะนี้ พบว่าในจุดที่ 1 หมู่ที่ 8 ต.ควนเคร็ง อ.ชะอวด เจ้าหน้าที่สามารถทำการดับไฟได้แล้ว และอยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบให้ไฟดับสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก ส่วนในจุดที่ 2 หมู่ที่ 11 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ มีไฟไหม้ป่าวัชพืช ราโพ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงช่วยกันดับไฟ โดยตนได้สั่งการให้รถน้ำและรถดับเพลิงของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเชียรใหญ่เข้าไปสนับสนุนโดยด่วน และในจุดที่ 3 คือ หมู่ที่ 12 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ในขณะนี้มีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการส่วนของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ พร้อมด้วยกำลังพลส่วนใหญ่ กำลังดับไฟอยู่ ซึ่งได้มีการโยกย้ายเครื่องสูบน้ำระยะไกล 2 เครื่อง พร้อมรถดับเพลิง และรถน้ำ ทำการสูบน้ำจากคลองชะอวด-แพรกเมือง เข้าไปดับไฟอย่างเต็มที่ เพราะมีพื้นที่ติดต่อกับโครงการจัดการป่าเสม็ดแบบครบวงจร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน และประชาชน ทั้งนี้ จากการระดมสรรพกำลังและการประเมินจากเจ้าหน้าที่คาดว่าจะสามารถดับไฟได้ทุกจุดทั้งหมดในเย็นวันนี้
ขณะนี้ได้เร่งประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบสถานการณ์และเตรียมความพร้อมในการป้องกันไฟป่าและเตรียมพร้อมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะสิ่งที่สำคัญ คือ การแบ่งพื้นที่ในการสกัดกั้นให้มีความชัดเจน โดยต้องใช้กำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ร่วมมือกับประชาชนจิตอาสาและชาวบ้านในพื้นที่ช่วยสกัดกั้นกันไม่ให้ไฟไหม้ป่าขยายวงกว้าง โดยใช้วิธีการสร้างความชุ่มชื้นบนผิวดิน เพื่อตัดทางไฟและสกัดกั้นไฟไม่ให้มีไฟลามไปยังจุดอื่น และหากพี่น้องประชาชนพบไฟไหม้ป่าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง