X
ระดม จนท. 1.2 หมื่น ช่วยชาวบ้าน รับมืออุทกภาคเหนือ

ระดม จนท. 1.2 หมื่น ช่วยชาวบ้าน รับมืออุทกภาคเหนือ

23 ก.ค. 2568
90 views
ขนาดตัวอักษร

23 ก.ค.68 - รมว.ทส. กำชับทุกหน่วยระดมจนท. 1.2หมื่นนาย เข้าช่วยเหลือ-อพยพ-เคลื่อนย้าย ปชช.พื้นที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือ


เพื่อรับมือกับสถานการณ์อิทธิพลจากพายุโซนร้อนวิภา ล่าสุด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ถึงมาตรการรับมือฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้


กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมพร้อมบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องมือเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ส่วนการจัดตั้งศูนย์ War room เพื่อติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะการแจ้งเตือนภัยกรณีเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดดินสไลด์ เนื่องจากโครงสร้างดินอ่อนและเปลี่ยนแปลงได้หลังเกิดฝนตกสะสม ย้ำสิ่งต้องประเมินสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย และติดตามชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดธรณีพิบัติภัยดินถล่ม เพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที


ขณะที่ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตามข้อสั่งการของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติ และเตรียมความพร้อมในการ ให้การช่วยเหลือประชาชน กรณีที่เกิดเหตุอุทกภัยหรือดินโคลนถล่ม โดยให้ดำเนินการวางแผน และเตรียมความพร้อมด้าน อัตรากำลัง ยานพาหนะ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน


นายอรรถพล กล่าวว่า ผลกระทบจากพายุวิภา ซึ่งจาก พายุโซนร้อน ขณะนี้ เปลี่ยนเป็นดีเปรสชันแล้ว แต่ก็ยังทำให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือได้รับผลกระทบอยู่ กรมอุทยานแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ ได้ดำเนินการ ตามแนวทางดังกล่าว โดยแจ้งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤต ทั้งกำลังพล ยานพาหนะทางบกและทางน้ำ เครื่องสูบน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า อุปกรณ์เตือนภัย วิทยุสื่อสาร อากาศยานไร้คนขับ (UAV) และอุปกรณ์กู้ภัยอื่น ๆ รายละเอียดปรากฏ ดังนี้ กำลังพล (จนท.สบอ.) 12,694 นาย ยานพาหนะทางบก  2,510 คัน ยานพาหนะทางน้ำ  141 ลำ เครื่องสูบน้ำ  257 เครื่อง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  205 เครื่อง เครื่องเตือนภัย  83 เครื่อง ขุดกู้ชีพ/กู้ภัย  573 ชุดอากาศยานไร้คนขับ (UAV) 102 ลำ อุปกรณ์อื่น ๆ (เช่น GPS เลื่อยโซ่ยนต์) 6,378 ชิ้น


ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะใน จ.น่าน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ได้เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติน้ำท่วม บ้านเฮี้ย หมู่ที่ 1 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน โดยระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง รวมทั้งเปิดที่ทำการที่มีความพร้อม ให้เป็นแหล่งพักพิงชั่วคราว เช่น หน่วยพิทักษ์ หน่วยจัดการต้นน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชน


นายก้องไมตรี เทศสูงเนิน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ยม จ.แพร่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีน้ำไหลหลากเพิ่มระดับน้ำแม่น้ำยมสูงและต่อเนื่อง สถานี Y20 (ห้วยสัก) ระดับน้ำ 9 เมตร ระดับน้ำเพิ่มสูงระดับเตือนภัยท่วมถนนเข้าแหล่งท่องเที่ยวแก่งเสือเต้น ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยม ยานพาหนะไม่สามารถสัญจรได้ ประกอบกับมีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนมี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะมีผลกระทบกับราษฎรตอนใต้สองฝั่งแม่น้ำตอนล่าง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดโดยรับฟังประกาศและข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระดับน้ำแม่น้ำยมจากหน่วยงานราชการและสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง หากบ้านเรือนหรือทรัพย์สินอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ขอให้เร่งขนย้ายสิ่งของมีค่าและสัตว์เลี้ยงขึ้นไปไว้ในที่ปลอดภัยและสูงกว่าระดับน้ำที่คาดการณ์ไว้


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับกรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนัก ผลกระทบจากอิทธิพลพายุวิภาให้กับประชาชนได้ทันท่วงที

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)