ภาพถ่ายล่าสุดของ “เสาแห่งการก่อกำเนิด” โดยกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ สีสันสดใส มองเห็นกลุ่มดาวฤกษ์เกิดใหม่จำนวนส่องประกายอยู่รอบ ๆ อย่างสวยงาม แล้วรู้หรือไม่ว่ากลุ่มแก๊สเหล่านี้ก็เป็นต้นกำเนิดของ ‘ดาวฤกษ์’ ที่ยิ่งใหญ่อย่างดวงอาทิตย์ หรือแม้กระทั่งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราอีกด้วย
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากเปรียบเทียบแนวฝุ่นและแก๊สระหว่างภาพจากฮับเบิลกับภาพจากเจมส์ เว็บบ์ จะพบว่าส่วนที่หนาทึบของฮับเบิลนั้น เป็นส่วนที่สว่างสีเหลืองสดใสของเจมส์ เว็บบ์ เนื่องจากกลุ่มฝุ่นและแก๊สเหล่านี้มีอุณหภูมิต่ำ จึงไม่แผ่รังสีในช่วงคลื่นที่ตามองเห็น ฮับเบิลจึงมองเห็นกลุ่มฝุ่นนี้เป็นสีดำเข้ม ขณะที่เจมส์ เว็บบ์สามารถมองเห็นรายละเอียดของแก๊สเหล่านี้ได้ชัดเจน เนื่องจากแก๊สอุณหภูมิต่ำเช่นนี้จะแผ่รังสีอินฟราเรดออกมา ทำให้เจมส์ เว็บบ์สามารถบันทึกรายละเอียดของกลุ่มแก๊สนี้ได้ ขณะที่แสงจากดาวฤกษ์พื้นหลังก็ยังสามารถทะลุฝุ่นเหล่านี้ออกมาได้อีกด้วย
(20 ต.ค. 65) องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ได้เปิดเผยภาพถ่ายล่าสุดของ “เสาแห่งการก่อกำเนิด” หรือ Pillars of Creation ที่ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ ที่มีสีสันสดใสชัดเจน และมีกลุ่มดาวฤกษ์เกิดใหม่จำนวนส่องประกายอยู่รอบ ๆ
“เสาแห่งการก่อกำเนิด (Pillars of Creation)” ส่วนหนึ่งของเนบิวลานกอินทรีย์ (Eagle Nebula, M16) อยู่บริเวณกลุ่มดาวงู (Serpens) ที่ห่างจากโลกประมาณ 6,500 ถึง 7,000 ปีแสง ส่วนที่ปรากฏเป็น “เสา” ในภาพมีความยาวประมาณ 4-5 ปีแสง ในขณะที่เนบิวลานกอินทรีย์ที่มีความกว้างประมาณ 55-70 ปีแสง
กล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ ถ่ายภาพนี้ในช่วงคลื่นแสงอินฟราเรด ทำให้สามารถมองเห็นดาวฤกษ์เกิดใหม่ที่อยู่รอบบริเวณกลุ่มแก๊สหนาทึบได้อย่างชัดเจน
เนบิวลา คืออะไร?
เนบิวลา “หมอกเพลิง” เป็นกลุ่มแก๊สที่ขนาดใหญ่หลายปีแสง แต่เบาบางมีความหนาแน่นต่ำมาก เป็นแหล่งกำเนิดดาวฤกษ์ในอวกาศ ประกอบไปด้วยแก๊สไฮโดรเจนที่เป็นธาตุที่มีโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นธาตุตั้งต้นของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
เนบิวลารวมกลุ่มกันด้วยแรงโน้มถ่วงที่ดึงดูดให้ฝุ่นและแก๊สเข้ามารวมตัวอัดแน่นเป็นก้อนที่มีขนาดเล็กและหนาแน่นขึ้น เมื่อมวลมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน แรงดึงดูดแปรผันตามมวล มวลยิ่งมากแรงดึงดูดยิ่งมาก ฝุ่นและแก๊สรวมตัวอันแน่นจนเกิดความดันและอุณหภูมิที่สูงขึ้น จนเกิดปฏิกิริยาฟิวชั่นกลายเป็นดาวฤกษ์ นอกจากนี้เนบิวลายังเป็นวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ช่วงสุดท้ายอีกด้วย โดยเนบิวลาอาจเกิดจากการระเบิดของดวงดาวฤกษ์ต่าง ๆ กลายเป็นฝุ่นและเศษซากต่าง ๆ จับตัวกันกลายเป็นเนบิวลาอีกครั้ง
ที่มา : ภาพความละเอียดสูงของเสาแห่งการก่อกำเนิด / เนบิวลา คืออะไร?