X
“โยเร” คืออะไร ? ลัทธิความเชื่อ หรือ ศาสนาการตลาด

“โยเร” คืออะไร ? ลัทธิความเชื่อ หรือ ศาสนาการตลาด

3 ม.ค. 2567
22290 views
ขนาดตัวอักษร

3 ม.ค. 67 - ชื่อของ "ลัทธิโยเร" ปรากฏตามหน้าสื่ออีกครั้ง หลังจากคดีสัตวแพทย์หญิงจบชีวิตตัวเองและลูกสาววัย 12 ปี และสั่งให้เผาทันที  ก่อนที่สามีของผู้ตายจะออกมาเปิดเผยถึงภาวะซึมเศร้าและการไปนับถือลัทธิโยเรของภรรยา ลัทธิโยเรคืออะไร และอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน



“ลัทธิโยเร” มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “เซไกคีวเซ” เป็นลัทธิศาสนาใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเกิดจากการผสมผสานความเชื่อของลัทธิชินโด ศาสนาพุทธนิกายมหายาน และหลักจริยธรรมสากล ก่อตั้งโดยโมกิจิ โอกาดะ เมื่อปี พ.ศ.2478 โดยสาวกจะเรียกเขาว่า “เมชูซามะ” หรือเอกสารไทยเรียก “เมซึซามะ” ซึ่งคล้ายกับคำว่าเมสซีอา หรือพระเจ้าในศาสนาคริสต์ โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นผู้แพ้สงคราม ลัทธิโยเรก็เริ่มพัฒนาให้มีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น 



โดยคำว่า โย แปลว่า ชำระล้าง และ เร แปลว่า จิตวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ โยเรจึงหมายถึงชำระล้างทางจิตวิญญาณ โดยลัทธิโยเรมีความเชื่อเรื่องการส่งพลังแสง ผ่านฝ่ามือสู่ร่างกายเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ และยังมีแนวปฏิบัติอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องความงาม ศิลปะจากธรรมชาติ ทั้งนี้ คำสอนหลักของลัทธิโยเรคือการทำความดี และต้องชักชวนลูกหลานให้มาร่วมเป็นสาวก ซึ่งหากใครเคยไปญี่ปุ่น ในอดีตจะมีคนพบสาวกของลัทธิ ยืนยกมือแผ่พลังตามสถานีรถไฟ รวมทั้งดึงคนเข้าลัทธิอีกด้วย

สื่อญี่ปุ่นเคยออกมาเตือนเรื่องลิทธิโยเร ระบุว่าเป็นลัทธิอันตราย ซึ่งประเทศญี่ปุ่นและหลายประเทศในยุโรปต่างเฝ้าระวังลัทธิดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าคำสอนหลายอย่างของลัทธิโยเรเข้าข่ายการล้างสมอง รวมทั้งเคยมีรายงานว่า หลังผู้นำลัทธิโอมชินริเกียว อย่างโชโกะ อาซาฮาร่า ถูกจับจากกรณีก่อการร้ายปล่อยก๊าซซารีนในสถานีรถไฟ มีลูกศิษย์จากลัทธิโอมชินริเกียว เข้ามาหาลัทธิโยเรจำนวนหนึ่ง เพราะวัตรปฎิบัติที่คล้ายกัน 

สำหรับลัทธิโยเรในประเทศไทย จากข้อมูลของเว็บไซต์วิกิพีเดีย ระบุว่า ลัทธิโยเรเข้าสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ.2511 โดยคาซูโอะ วากูกามิ หนึ่งในลูกศิษย์รุ่นแรกของโมกิจิ โอกาดะ เริ่มต้นจากการเผยแพร่คำสอนโดยการแปลเอกสารทางศาสนา และก่อตั้งโรงเรียนเกษตรกรรมในประเทศไทย จดทะเบียนในชื่อ “มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา” ต่อมากรมศาสนาได้รับรองให้มูลนิธิเป็นองค์กรศาสนาย่อยของศาสนาพุทธนิกายมหายาน มีการเผยแพร่ศาสนาและมีศาสนิกชนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และต่อมาใน พ.ศ. 2519  ลัทธิเซไกคีวเซ หรือ ลัทธิโยเร เริ่มวางนโยบายเผยแผ่ศาสนาแก่ลูกหลานเกษตรกรในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยในช่วง พ.ศ. 2521–2524 มีศาสนิกชนเพิ่มขึ้นเท่าตัว มีการสร้างสถานปฏิบัติธรรมหรือโบสถ์ของลัทธิในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย สระบุรี และมีสำนักงานใหญ่ที่ซอยสีฟ้า ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร



ในปัจจุบัน กรมศาสนาได้เพิกถอนสถานะการเป็นนิกายของศาสนาพุทธนิกายมหายาน จึงถูกลดสถานะกลับไปเป็นมูลนิธิ โดยปัจจุบัน ลัทธิโยเรมีศาสนสถานอยู่ที่จังหวัดสระบุรี เรียกว่าองค์การศาสนาเซไคคิวเซเคียวประจำประเทศไทย

ผู้ที่จะเข้าร่วมลัทธิโยเรต้องเข้ารับจี้โอฮิการิ หรือเรียกว่า “การรับพระ” ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และต้องปฏิบัติศาสนกิจ เรียกว่า “กิจกรรมพระ” รวมถึงต้องเผยแพร่ศาสนาเพื่อเพิ่มจำนวนศาสนิกชนให้มากขึ้น หลังจากนั้น สาวกลัทธิโยเรต้องพกพระโยเรติดตัวเอาไว้ และจะสามารถปล่อยแสงทิพย์ออกจากมือเพื่อรักษาโรคได้ โดยกล่าวคาถาบูชาว่า "ขออำนาจพระศรีรัตนตรัยและท่านเมซึซามะ ขอให้คนข้างหน้าจงมีความสุข" หรือบ้างก็กล่าวว่า "ขออำนาจบารมี คุณพระศรีอริยเมตไตรย และท่านเมซึซามะ โปรดประทานแสงทิพย์ เพื่อชำระเมฆหมอกความขุ่นมัว" จากนั้นจะยกมือขึ้นระดับศีรษะ หันมือเข้าหาผู้รับแสง ยกค้างไว้ 10-15 นาที วันละครั้งหรือสองครั้ง เพราะเชื่อว่าเป็นการรักษาโรคภัย



นอกจากนี้ สาวกของลัทธิโยเรจะถูกแบ่งเป็นหลายระดับ โดยแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังต่อไปนี้

ระดับศาสนิกชน คือ บุคคลที่เพิ่งเข้าสู่ลัทธิโยเรได้ไม่นาน

ระดับเซวานิน คือ บุคคลที่เข้าลัทธิได้ 1 - 2 ปี มีหน้าที่ดูแลศาสนิกชนที่เพิ่งเข้ามา และต้องชักชวนบุคคลอื่นเข้าสู่ลัทธิ

ระดับไฮเคียว คือ บุคคลที่เข้าลัทธิ 2 ปีขึ้นไป จะต้องเข้ามาประกอบกิจของลัทธิเป็นประจำ

ระดับภูไคอิน คือ บุคคลระดับสูง เข้ามาประกอบกิจลัทธิบ่อยครั้ง ทั้งยังมีความเลื่อมใสในลัทธิอย่างสูงส่ง

ระดับเคียวไคโจ คือ สาวกระดับอาจารย์ จะมีแค่ 1 คนต่อสาขา ต้องเป็นผู้ละทางโลก และเป็นคนสอนคำสอนให้กับสาวก

การเข้าร่วมลัทธิโยเรนั้น ไม่ใช่ใครก็สามารถเข้าได้ง่าย ๆ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมลัทธิ และต้องเข้ามาร่วมประกอบกิจของลัทธิเป็นประจำ โดยมีส่วนผสมของลัทธิพุทธพาณิชย์ไทยมากยิ่งขึ้น โดยมีส่วนหนึ่งคล้ายกับวัดใหญ่ชื่อดังวัดหนึ่งในประเทศไทย โดยมีรายงานว่ามีลูกศิษย์วัดใหญ่วัดนั้นบางส่วนเข้ามานับถือลัทธิโยเร ทำให้มีแนวทางคล้ายกับวัดนั้น ทั้งการพยายามสร้างองค์กรให้ดูสะอาด มีลำดับขั้น และต้องใช้เงินมากขึ้น โดยเฉพาะเหรียญโยเรที่เป็นเหรียญสำคัญในการทำสมาธิและปล่อยพลัง ถูกขายในราคา 1,000 -  3,000 บาท 



ปัจจุบันตลาดสาวกของลัทธิโยเร คือเหล่าผู้สูงอายุที่มีเงิน โดยเฉพาะการรักษาโรคโดยใช้การปล่อยพลังจากแสง ที่เข้ากับเทรนด์การรักษาโรค และการปฎิบัติธรรมที่ดูสวยงามสงบ จึงดึงดูดสาวกที่เป็นผู้สูงอายุได้จำนวนมาก โดยผู้สูงอายุที่มีเงิน และจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อสาวกของโยเร เชื่อว่าพลังและเหรียญนั้นสามารถรักษาโรคได้ จะทำให้สาวกและคนใกล้ตัวอาจจะถูกบังคับให้ปฎิเสธการรักษาในแผนปัจจุบันไป ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะโรคที่เป็นอาจจะกำเริบจนเสียชีวิตได้ 

นอกจากนี้ลัทธิโยเรยังคงทำกิจกรรมสนับสนุนทุนการศึกษาศาสนาพุทธให้แก่มหาลัยสงฆ์เป็นประจำทุกปี สร้างเครือข่ายในพุทธศาสนาในประเทศไทย และสถาบันหลักอื่น ๆ ของชาติไทย 

นอกจากลัทธิโยเรแล้ว ลัทธิแปลก ๆ อื่น ๆ ในประเทศไทย เช่นลัทธิมูน จากเกาหลี ลัทธิไสบาบา จากอินเดีย ซึ่งต้องเฝ้าระวัง เพราะหากลัทธินั้นสอนให้คนดีก็ดีไป แต่หากลัทธินั้นเป็นลัทธิหลอกลวง ก็อาจจะเกิดเหตุเช่นเดียวกับนักร้องนำวงร็อคชื่อดังอย่าง X – Japan โทชิ ที่ถูกหลอกจนเกือบหมดตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการเข้ามาของลัทธิต่าง ๆ ก็เป็นการอธิบายได้ว่า ประเทศไทยนั้นเปิดกว้างสำหรับทุกศาสนาและความเชื่อจริง ๆ


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)