25 ม.ค. 67 - รถไฟฟ้าหรือ EV ได้รับการคาดหมายกันว่าจะเป็นรถยนต์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก โดยดูจากยอดขายของ Tesla หรือ BYD ที่กลายเป็นรถที่ส่งออกอันดับต้น ๆ ในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามToyotaไม่คิดอย่างนั้น และเชื่อว่ารถ EV แย่งตลาดรถยนต์ได้เพียง 30 % เท่านั้น
อากิโอะ โทโยดะ (Akio Toyoda) ประธานบริษัท Toyota กล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ครองตลาดได้มากกว่า 30% ของตลาดรถยนต์ทั้งโลก และผู้บริโภคไม่ควรถูกบังคับให้ซื้อพวกมัน ซึ่งน้อยกว่าสองเท่าของส่วนแบ่งปัจจุบันในสหราชอาณาจักร โดยส่วนที่เหลือ 70% จะถูกครอบครองโดยรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฮโดรเจน
เขาเห็นว่า ความน่าสนใจของรถยนต์ไฟฟ้ามีขีดจำกัด เนื่องจากยังมีประชากรโลกกว่าหนึ่งพันล้านคนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาแพงและต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ดีสำหรับการชาร์จ
โดยความเห็นของเขาคือการพยายามโต้แย้ง ข้อข้องใจของใครหลายคนที่กำลังคิดว่าToyota กำลังล้าหลังที่ไม่พัฒนาระบบพลังงานทางเลือกอื่น ๆ โดยทางToyotaได้บอกว่าตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนาพลังงานทางเลือกอยู่ แต่ก็ยอมรับว่า เหมือนสู้อยู่ในตลาดเพียงคนเดียว
ประธานของ Toyota ยังชี้ไปที่ประกาศล่าสุดของ Toyota ที่กำลังพัฒนาเครื่องยนต์รูปแบบใหม่ อย่างไรก็ตาม เขาคาดการณ์ว่าในอนาคตธนาคารอาจเริ่มหยุดให้เงินกู้กับบริษัทที่ยังคงผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
โทโยดะได้เน้นย้ำ ‘แนวทางหลายเส้นทาง’ ที่เขาได้เสนอมาหลายปี โดยเสนอว่า ลูกค้าควรเลือกรถที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง และการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่เกิดขึ้นเร็วเท่าที่บางคนคาดการณ์ไว้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวคิดนี้ได้รับการยืนยันหลังจากที่ Toyota เปิดเผยว่า ได้ผลิตรถยนต์ได้ถึง 9.2 ล้านคันในปี 2023 และยังเหลือเวลาหนึ่งเดือนของปี ยอดรวมประจำปีคาดว่าจะเกิน 10 ล้านคัน ในขณะเดียวกัน ยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 7% เป็น 10.2 ล้านคัน
โคจิ ซาโตะ (Koji Sato) ซีอีโอของบริษัท Toyota ได้กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า Toyota จะขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ได้ 1.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2026 และ 3.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030 ด้าน Tesla ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการผลิตรายปี รายงานยอดส่งมอบ 1.8 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว
คำพูดของโทโยดะมีขึ้นหลังจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในทั้งสหราชอาณาจักรและยุโรปชะลอตัวในช่วงปลายปี 2023 โดยรวมแล้วสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ (SMMT) กล่าวว่า ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรได้ลดลงเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคไม่พอใจกับราคาที่สูงและขาดจุดชาร์จ
ส่วนแบ่งของ EV ในตลาดรถยนต์ใหม่ทั้งหมดลดลงจาก 16.6% ในปี 2022 เป็น 16.5% ในปี 2023 ซึ่งเปรียบเทียบกับส่วนแบ่ง 17.2% ที่ SMMT คาดการณ์ไว้เดิม
สุดท้ายรถยนต์ EV จะมีส่วนแบ่งขนาดไหนเป็นเรื่องน่าคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบนการใช้น้ำมันของ EU ภายในปี 2035 น่าจะมีส่วนช่วยดันยอดขายของรถ EV แน่นอน แล้วยิ่งตัวเลือกในการผลิตรถ EV อาจจะทำให้การชาร์ตง่ายขึ้น เช่นการชาร์ตไร้สายตามถนน เพราะแน่นอนเทคโนโลยีรถ EV ยังไม่ถึงสุดทาง แต่ในขณะที่เทคโนโลยีรถเครื่องเผาไหม้นั้นถึงสุดทางแล้ว แนวคิดของผู้บริหารToyotaอาจจะมองผิดก็เป็นได้