Google ประเทศไทย จัดงาน “Digital Samart Thailand” ตอกย้ำความมุ่งมั่นในพันธกิจภายใต้แนวคิด ‘Leave No Thai Behind’ พร้อมเผยความคืบหน้าล่าสุดในการดำเนินงานที่จำเป็นต่อการส่งเสริมประเทศไทยให้เติบโตในเศรษฐกิจ AI ซึ่งได้แก่ ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการร่างนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policy) ความร่วมมือด้าน Generative AI (Gen AI) กับ 3 หน่วยงานภาครัฐ และการมอบทุนการศึกษาภายใต้หลักสูตร Google Career Certificates เพิ่มเติมจำนวน 12,000 ทุน พร้อมเพิ่ม 4 หลักสูตรใหม่ เพื่อช่วยให้คนไทยมีทักษะดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับสายงานที่มีความต้องการสูงและปูทางสู่อาชีพในอนาคต โดยโครงการริเริ่มทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ 4 เสาหลักระหว่าง Google และรัฐบาลไทยเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งได้แก่ การต่อยอดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การวางหลักเกี่ยวกับนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policy) การส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัยเพื่อยกระดับการให้บริการของภาครัฐ และการทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลได้มากขึ้น
แจ็คกี้ หวัง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดกว่าทศวรรษที่ผ่านมา Google ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย เราดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ทราบว่า การที่ธุรกิจต่างๆ ในไทยนำผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ทํางานด้วยระบบ AI ของ Google ไปใช้ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1.5 แสนล้านบาทในปี 2565 นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้ร้บผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจถึง 7.4 หมื่นล้านบาท และสนับสนุนการจ้างงานในประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 250,000 ตำแหน่ง นี่เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงพลังของเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสใหม่ๆ และเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยในระยะยาว”
ความร่วมมือในการร่างนโยบาย Cloud-First และการเร่งให้เกิดนวัตกรรม AI ในส่วนภาครัฐภายในงาน นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเกี่ยวกับการพัฒนานโยบาย Go Cloud First โดยได้นำคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติแนะนำระดับนานาชาติจาก Google มาเป็นแนวทางในการร่างนโยบายฯ เช่น การอนุญาตให้มีการไหลเวียนอย่างอิสระของข้อมูลพร้อมด้วยการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยผ่านคีย์การเข้ารหัส และการกำหนดประเภทของข้อมูลที่อาจจะต้องจ้ดเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมของคลาวด์ที่ตัดขาดการเขื่อมต่ออย่างสมบูรณ์แบบ(Fully air-gapped) โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติข้อเสนอแนะของนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) เป็นผู้เร่งดำเนินการตามนโยบายนี้ โดยจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567
นอกจากนี้ Google Cloud ยังได้ประกาศความร่วมมือด้าน Generative AI กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงคมนาคม และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) (Big Data Institute: BDI) โดยบุคลากรจากทั้ง 3 องค์กรนี้จะได้รับการฝึกอบรมภาคปฏิบัติจากทีมวิศวกรของ Google Cloud เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้างโดยใช้เทคโนโลยี Generative AI รวมไปถึงการใช้ Vertex AI เพื่อจัดทำโซลูชันของตัวเอง และด้วยแพลตฟอร์ม Vertex AI ของ Google Cloud องค์กรต่างๆ สามารถเลือกโมเดล AI พื้นฐานทั้งของ Google และแบบโอเพนซอร์สกว่า 100 โมเดล เพื่อนำไปปรับใช้ในการสร้างโมเดลแบบกำหนดเองโดยใช้เครื่องมือและข้อมูลขององค์กรที่มีอยู่ และผนวกรวมโมเดลแบบกำหนดเองเหล่านี้เข้ากับบริการดิจิทัลขององค์กรเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ดียิ่งขึ้น
ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย Country Marketing Manager, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการช่วยให้คนไทยมีส่วนร่วมในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศมากยิ่งขึ้น เราจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อมอบทุนการศึกษาสำหรับใบรับรองทักษะอาชีพเพิ่มเติมจำนวน 12,000 ทุน ภายใต้โครงการ Samart Skills เราเชื่อว่าการเพิ่มศักยภาพให้กับประชาชนและธุรกิจด้วยทักษะดิจิทัลควบคู่ไปกับการส่งเสริมสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยจะทำให้เราสามารถสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนได้ ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาครัฐและพาร์ทเนอร์ของเราทำให้เราช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงทักษะดิจิทัลได้มากขึ้น และเราหวังว่าจะได้สานต่อความร่วมมืออันดีนี้ต่อไปในอนาคตเพื่อช่วยปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับคนไทยให้ได้มากยิ่งขึ้น”