26 มี.ค.65 - ลดโลกร้อน ทุกคนช่วยได้ ชวนร่วมกิจกรรม 1 ชั่วโมงเพื่อโลกและเพื่อเรา 60+ Earth Hour 2022 “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน”
วิกฤตปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติทุกประเทศทั่วโลก นำไปสู่การเกิดภัยธรรมชาติอุทกภัย วาตภัย ภูเขาไฟระเบิด ธรณีพิบัติ โรคระบาดที่มีความรุนแรงขึ้น นานาประเทศจึงต้องแสวงหาแนวทางและความร่วมมือในการแก้ไขเตรียมรับและปรับตัว เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์อย่างจริงจังเพื่อความปลอดภัยของโลกใบนี้
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร เชิญชวนร่วมกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20:30 น. ถึง 21:30 น. “เพื่อโลกและเพื่อเรา”
•
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ครั้งนี้ และขอเชิญชวนทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน ลดการใช้พลังงานปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือนเป็นเวลา 1 ชั่วโมงอันเป็นพลังให้ประชาคมโลกรับรู้ถึงความตั้งใจของประเทศไทยในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน และร่วมมือประหยัดและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
•
ทั้งนี้ในปี 2550 กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wildlife Fund : WWF) ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เริ่มกระตุ้นสร้างจิตสำนึกของผู้คนในสังคมให้หันมาใส่ใจการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม และกิจกรรม Earth Hour จัดขึ้นทุกปีในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคม โดยร่วมมือกับนานาประเทศกว่า 190 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” เมื่อปี 2551 และทำติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
•
ขณะที่กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม บริเวณสกายวอล์คช่องนนทรี เขตสาทร รณรงค์และเชิญชวนลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกับเมืองต่าง ๆ กว่า 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อเป็นการแสดงพลังให้รับรู้ถึงความตั้งใจของประเทศไทยในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่ออง
•
ทั้งนี้การปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ปี 2551 – 2564 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 22,398 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12,235.40 ตัน คิดเป็นมูลค่า 80.90 ล้านบาท
•
นอกจากนี้ ภาคีเครือข่าย ทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน ประชาชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต มากกว่า 100 แห่งและเจ้าของอาคารบ้านเรือนในถนน 100 สาย จะร่วมปิดไฟตามอาคาร ตึกสูง และบ้านเรือน พร้อมกับการปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในสถานที่ที่เป็นแลนมาร์คของกรุงเทพมหานคร 5 สถานที่หลัก ประกอบด้วย 1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง 2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 3. เสาชิงช้า 4. สะพานพระราม 8 และ 5. ภูเขาทอง(วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร)
•
กรุงเทพมหานครหวังว่ากิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อนจะเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความร่วมมือ ที่จะนำไปสู่การผลักดันให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทยเห็นความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ความ ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติอย่างง่าย ๆ แต่จริงจังในทุกวัน อาทิ ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน การปลูกต้นไม้ ลดการใช้พลังงานเปลี่ยนวิธีเดินทางมาเป็นการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การเดิน หรือการขี่จักรยาน ลดการสร้างขยะ ซึ่งความร่วมมือเล็ก ๆ แต่เมื่อทำบ่อยครั้งจะเป็นพลังในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน