(28 มีนาคม 2565) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3/2565 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานและร่วมศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2565 และประธานคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล (นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน) คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการเสนอหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา (นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน) คณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และการประชาสัมพันธ์ (พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธาน) เข้าร่วมการประชุม
.
ที่ประชุมได้รับฟังรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ด้าน และร่วมพิจารณาแนวทางการตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงและการขับเคลื่อนการแก้ไขสลากเกินราคา รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบและแก้ไขปัญหากรณีที่มีบุคลลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาที่เกินกว่ากำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการรายงานผลการดำเนินงานทั้ง 3 คณะอนุกรรมการ พบว่ามีความคืบหน้าตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา ฯ ที่มี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการฯ มี พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์ 2 รายใหญ่ คือ มังกรฟ้า และ กองสลากพลัส พบว่ามีสลากจำหน่ายเกินราคา จำนวน 6.7 ล้านฉบับ มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบหลายราย ซึ่งหากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองสลากฯ ได้ตรวจสอบแล้วมีความผิดข้อหาใดก็จะดำเนินคดีต่อไป
.
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานมีความตั้งใจที่ต้องการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาอย่างจริงจัง ซึ่งมีเพียงบุคคลบางกลุ่มที่หาประโยชน์ใส่ตัวจนทำให้ผู้ค้ารายย่อยและประชาชนได้รับผลกระทบจากราคาสลากที่แพงเกินจริง ทางคณะกรรมการจึงได้ศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการค้าสลากออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ ที่จะช่วยควบคุมราคาสลากได้ และยังได้พิจารณาหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนผู้ค้ารายย่อยอย่างรัดกุม เพื่อให้ได้ผู้ค้าสลากในราคา 80 บาท ที่ไม่ค้ากำไรเกินจริง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีความเห็นใจผู้ค้ารายย่อยที่รับสลากเกินราคามาจากผู้ค้ารายใหญ่ มองว่าผู้ค้ารายย่อยมีความจำเป็นที่ต้องค้าขายและทำการค้าอย่างสุจริต ซึ่งการไปดำเนินการใดกับผู้ค้ารายย่อยทันทีอาจดูไม่เป็นธรรม จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ต่อไป
.
“เราได้ให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ค้ารายย่อยที่ค้าขายอย่างสุจริต เพื่อรวบรวมข้อมูลและประเด็นปัญหามาประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ส่วนการค้าสลากออนไลน์ที่เกินราคาถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะกรรมการต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและติดตาม เราจะทำให้การแก้ปัญหาราคาสลากอยู่ที่ 80 บาททั่วประเทศมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน ภายในเดือนพฤษภาคมนี้” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว