สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA มุ่งมั่นพัฒนาบริการดิจิทัลสาธารณะของรัฐให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ตามวิสัยทัศน์ “บริการภาครัฐสะดวก โปร่งใส ทันสมัย ตอบโจทย์ประชาชน” โดยสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการยกระดับการบริหารจัดการและการดำเนินงานให้มีความยืดหยุ่นคล่องตัว มีการบูรณาการแบบไร้รอยต่อ เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
ล่าสุด ‘แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 – 2570’ ผ่านมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ในคราวประชุม เมื่อวันที่28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ณ ทำเนียบรัฐบาล โดย DGA ได้นำเสนอตามมติคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล โดยมีสาระสำคัญก้าวต่อไปของรัฐบาลดิจิทัลคือ การเป็นภาครัฐที่ปรับตัวทันการณ์ (Agile Government) ให้บริการที่ตอบสนองประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ (Responsive Government) เพิ่มความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจ (Enhance Competitiveness) และ โปร่งใสเปิดเผยข้อมูล ประชาชนเชื่อถือและมีส่วนร่วม (Open Government and Trust) โดยมุ่งลดช่องว่างการเป็นรัฐบาลดิจิทัลลงเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และการใช้เทคโนโลยีในการสร้างระบบรวมศูนย์ การจัดเตรียม การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดได้
ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า DGA เราพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันกับทุกภาคส่วนเพื่อให้แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลภาครัฐเพื่อการบริหารงานที่ยืดหยุ่น คล่องตัว และขยายสู่หน่วยงานภาครัฐระดับท้องถิ่นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาบริการที่สะดวกและเข้าถึงง่าย ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างมูลค่าเพิ่มและอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและ ยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐ จากโครงการความสำเร็จตามแผนรัฐบาลดิจิทัลฯ ในระยะที่ผ่านมา ตอกย้ำความมั่นใจว่า เมื่อประเทศมีความพร้อมก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ จะสามารถสร้างประโยชน์ได้ในหลากหลายมิติให้แก่ ภาครัฐ จะเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นในการทำงานของแต่ละหน่วยงานได้อย่างไร้รอยต่อ เจ้าหน้าที่รัฐก็จะมีทักษะการทำงานดิจิทัลที่สอดคล้องกับบริบทโลก สามารถให้บริการประชาชนได้สะดวกรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
ในอีก 5 ปีข้างหน้า แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ ฉบับนี้ จะเป็นเข็มทิศที่สำคัญในการบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลของหน่วยงานรัฐ ซึ่งพลังที่จะเร่งสปีดให้ประเทศไทยเดินหน้าได้ตามเป้าหมายนั้นก็คือบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านรัฐบาลดิจิทัลในทุกระดับต้องได้รับการพัฒนาให้มีทักษะด้านดิจิทัล มี Mindset สามารถปรับตัวได้ไวและเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างชาญฉลาด ขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ต้องเร่งสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ด้วย
ประเทศกำลังขับเคลื่อนตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 10 ด้านสำคัญ คือ การศึกษา สุขภาพและการแพทย์ ความเหลื่อมล้ำทางสิทธิสวัสดิการประชาชน สิ่งแวดล้อม การเกษตร การท่องเที่ยว การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs แรงงาน การยุติธรรม และการมีส่วนร่วม โปร่งใส และตรวจสอบได้ของประชาชน ดังนั้น ทุกหน่วยงานรัฐจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการจัดทำหรือปรับปรุงแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ ด้วย เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการทำงานระหว่างกันและเกิดความต่อเนื่องในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยต่อไป