การรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) แผนจัดสรรคลื่นความถี่ สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่นที่สากลของประเทศไทย ระยะ 5 ปี (2567-2571) ทั้งนี้ ในปี 2568-2570 ประเทศไทยจะมีคลื่นความถี่ที่ได้รับการจัดสรรสำหรับกิจการโทรคมนาคมที่จะสิ้นสุดใบอนุญาต คือ คลื่นย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz 2300 MHz เนื่องจาการศึกษาสเปกตรัมได้ศึกษา ปริมาณความต้องการใช้คลื่นความถี่ กับปริมาณทราฟฟิก ผลการศึกษา พบว่าในปี 2572 จะมีความต้องการใช้คลื่นความถี่ที่ 739 MHz ดังนั้นเพื่อให้มีสเปกตรัมเพียงพอกับความต้องการทั้งย่านต่ำและย่านกลาง ควรนำคลื่นความถี่ที่จะสิ้นสุดระยะเวลาอนุญาตในปี 2568-2570และคลื่นที่รอการจัดสรรมาจัดสรรใหม่ภายในช่วงเวลา 5 ปี
สำนักงาน กสทช. ได้ทำร่าง แผนการจัดสรคลื่นความถี่ระยะเวลา 5 ปี โดยแบ่งสเปกตรัมเป็น 4 กลุ่ม คือ คลื่นความถี่ที่กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลาอนุญาต คลื่นความถี่ที่ว่างรอการจัดสรร คลืนความีที่ยังอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมในการจัดสรร และคลืนความถี่ที่กำลังศึกษาและจัดทกรอบเวลาเบื้องต้นในการอนุญาต โดยจัดสรรคลื่นความถี่ในกลุ่มที่จะสิ้นสุดระยะเวลาอนุญาตและคลื่นที่ว่างรอการจัดสรรค ในปี 2568 จำนวน 6 ย่าน ความถี่ คือ 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz
ในการรับฟังความคิดเห็น ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะนำคลื่นมาประมูลโดยการกำหนดให้มีการจัดสรรในต้นปีหน้าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ให้บริการเตรียมตัวได้ โดยขอให้มีการศึกษาในรายระเอียดของคลื่นย่าน 1500 MHz 2100 MHz 2300 MHz โดยอยากให้เพิ่มความยืดหยุ่นในคลืน 1500 MHz และ 2300 MHz ส่วนคลื่น 2100 MHz นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับการจัดสรรคลื่นความถี่ล่วงหน้า (ก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลาอนุญาต)เราจะช่วยทำให้การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีทำได้เร็วขึ้น จะเป็นการจัดสรรคลื่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถออกแบบบล็อกของคลื่นให้ใหญ่ขึ้นมากว่า 5 MHz เมื่อเอามาจัดสรรจะเหมาะกับความจำเป็นในการใช้งานมากกว่า การประมูลล่วงหน้าขอให้ทำให้เร็วที่สุด โดยสามารถประกาศหลักเกณฑ์ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้เพื่อให้การวางแผนการให้บริการทำได้ดีขึ้น
สำหรับการใช้งานคลื่นย่าน 3500 MHz เป็นย่านที่มีความสำคัญมากในอนาคต การนำคลื่นที่จะสิ้นสุดระยะเวลาอนญาตมาจัดสรรเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรมองถึงอนาคตที่จะนำคลื่นย่านอื่นที่จะรองรับเทคโนโลยีที่ต้องการคลื่นความถี่ย่านที่กว้าง นอกจากนี้ยังต้องวางแผนสำหรับการนำคลื่นความถี่ไปรองรับการใช้งาน 5G Private Network โดยควรออกบบรูปแบบการนำคลื่นความถี่ไปใช้งาน ให้เหมาะสม โดยจะให้โอเปอเรเตอร์ให้บริการเอง หรือจะเป็นความร่วมมือระหว่างโอเปอเรเตอร์กับเอกชนที่จะใช้งาน หรือจะอนุญาตให้เอกชน ว่างเน็ตเวิร์คเอง โมเดลธุรกิจ และรูปแบบวิธีการอนุญาตใช้คลื่นความถี่ที่เหมาะสม รวมถึงควรจัดลำดับความสำคัญ จึงควรทำให้เกิดความชัดเจน เพื่อวางเผนการจัดสรรคลื่นบนสเปกตรัมที่เหมาะสม เพื่อการเตรียมแผนรองรับทั้งการรับเทคโนโลยีใหม่ ความต้องการใช้คลื่นเพื่อให้บริการ Private Network