X
‘เครือข่ายเยาวชนไทย’ ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า    

‘เครือข่ายเยาวชนไทย’ ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า    

1 ก.ย. 2568
310 views
ขนาดตัวอักษร

ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ากำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และเป็น “ภัยคุกคาม”รูปแบบใหม่ ที่น่าเป็นห่วงต่อสุขภาพเด็กและเยาวชนไทย มีรายงานว่าเด็กไทยปอดรั่ว-ปอดอักเสบ หรือ “ปอดหาย” จากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยเพียง 12-14 ปี ล่าสุดเมื่อเดือนก.พ.2568 ก็พบเด็กนักเรียนจากบุรีรัมย์ มีอาการทางปอด หรือ ปอดหาย ถึง 8 คน แต่ที่น่าตกกว่านั้นคือ เด็กอายุเพียง 1 ขวบ 7 เดือน ติดบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว..

บ่งชี้ว่า สถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้ากำลังระบาดอย่างหนักในหมู่เด็กและเยาวชนไทยปัจจุบันที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ เห็นได้จากข้อมูลผลสำรวจโครงการอปท.ปลอดบุหรี่ของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ปี 2565  พบอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าพุ่งขึ้นถึง 10 เท่า โดยเฉพาะในผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นเด็กและเยาวชนอายุ15-24 ปี เช่นเดียวกับข้อมูลการสำรวจการบริโภคยาสูบของเยาวชนไทย ปี 2565 ยังพบด้วยว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนไทยอายุ 13-15ปี เพิ่มขึ้น 5.3 เท่า ภายในระยะเวลา 7 ปี หรือจาก 3.3% ในปี 2558 เพิ่มเป็น 17.6%ในปี 2565

สถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา “เลวร้าย” หนักขึ้น เพราะผลจากการที่ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าต้องการเพิ่มฐานการตลาดในนักสูบหน้าใหม่ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ จึงใช้กลยุทธ์การตลาดต่างๆ “ล่าเหยื่อ” โดยมุ่งเป้าที่กลุ่มเด็กและเยาวชน

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ยืนยันหนักแน่นว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย โดยเฉพาะต่อเด็กและเยาวชน เนื่องจากมีการใช้สารเสพติดเคมีชนิดต่างๆ เป็นส่วนผสม เพื่อทำให้สินค้ามีกลิ่นหอม ไม่ระคายคอและสูบง่าย มีสารนิโคตินสูงเสพติดง่ายและรุนแรง อีกทั้ง ยังออกแบบอุปกรณ์ที่มีรูปลักษณ์เย้ายวนใจเด็ก เป็นตุ๊กตา ของเล่นเด็กสีสันฉูดฉาด และยังทำการตลาดพุ่งเป้าที่เด็กและเยาวชนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ ทำให้เด็กอายุน้อยทั้งชายและหญิงอยากลองสูบ และติดบุหรี่ไฟฟ้า ก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะที่กำลังเจริญเติบโตและพัฒนา โดยเฉพาะปอดและสมอง ซึ่งปกติจะพัฒนาเต็มที่เมื่ออายุ 25 ปี ส่งผลเสียต่อการเรียน สมาธิ การควบคุมอารมณ์ มีความเสี่ยงเกิดโรคซึมเศร้า และนำเด็กไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่นได้


วันนี้เยาวชนไทยมีการพัฒนาลดลง เห็นได้จากอันดับการพัฒนาของเยาวชนโลกจากดัชนีการพัฒนาด้านสุขภาพ/สุขภาวะที่วัดสุขภาพกาย สุขภาพจิตและปัจจัยเสี่ยงการใช้สิ่งเสพติดของวัยรุ่นไทยอายุ 12-17 ปีในปี 2565 เราอยู่ในอันดับต่ำที่ 123 ของโลก และอยู่ในอันดับท้ายของเยาวชนกลุ่มเอเซียน ชี้ให้เห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้ากำลังทำลายเด็กและเยาวชนไทยอย่างมากและต้องเร่งหยุดยั้ง” .นพ.ประกิต กล่าวในเวทีประชุมวิชาการ “บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ” ครั้งที่ 23 ในโอกาสครบรอบ 20ปี ศจยที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

และหนึ่งในกิจกรรมย่อยภายในงานที่น่าสนใจคือการระดมเครือข่ายเยาวชน คนรุ่นใหม่ให้รู้เท่าทันกลยุทธ์บุหรี่ไฟฟ้า และร่วมมือกันปกป้องจากพิษภัยบุหรี่ 


นางสาวชวาลา ภวภตานนท์ ณ มหาสารคาม ผู้ช่วยผู้จัดการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และผู้จัดการโครงการป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า (Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ) ให้เหตุผลที่คนรุ่นใหม่ต้องรู้เท่าทันกลยุทธ์บุหรี่ไฟฟ้า ก็เพราะบริษัทบุหรี่ไฟฟ้ามุ่งเป้าไปที่เยาวชน โดยพยายามทำให้รูปลักษณ์บุหรี่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ของเล่น ตรงนี้ผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังและต้องทำให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่รู้เท่าทัน  

เธอกล่าวด้วยว่า ทิศทางเยาวชนทั่วโลกกำลังพยายามผลักดันเรื่องปลอดบุหรี่ไฟฟ้า และจากการประชุมบุหรี่และสุขภาพโลกของเยาวชนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเมื่อเร็วๆนี้  ได้มีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศเห็นถึงพิษร้ายของสารนิโคตินและการให้ความรู้แก่เยาวชน รวมทั้งเรียกร้องให้บริษัทยาสูบรับผิดชอบและให้ประชาชนปฏิเสธบริษัทยาสูบทุกรูปแบบ ไม่ว่าด้านการตลาด การเงิน นโยบาย ด้วยการเสนอให้มีการจัดตั้งตัวแทนผู้นำเยาวชนถาวรมีที่นั่งในการคณะทำงานควบคุมยาสูบโลกและให้เยาวชนมีส่วนร่วมการสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน ไม่ใช่มองว่า เยาวชนเป็นผู้ได้ประโยชน์ ตรงนี้จะเป็นการวางรากฐานสำคัญในการควบคุมยาสูบในประเทศเราด้วย  

ขอให้เยาวชนไทยทุกคนกล้าหาญและช่วยกันพลิกโฉมสังคมไทยให้ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า จึงอยากให้ Gen Z ระดมความคิดเห็นและเสนอต่อรัฐบาล เราไม่เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์แต่เราต้องเข้าไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์มเรื่องยาสูบ และเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดนโยบายปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้านางสาวชวาลาบอก

ด้าน ดร.ดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้กล่าวถึงการสื่อสารความเสี่ยงภัยบุหรี่ไฟฟ้าโดยคนรุ่นใหม่ (Hybrid) ว่า ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ากำลังชักใยเด็กเยาวชน โดยเป้าหมายธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ามุ่งไปที่ Gen Z มีอายุระหว่าง 13-28 ปี ซึ่งอยู่ในวัยมัธยม มหาวิทยาลัย และคนเริ่มทำงาน 

การที่จะผลักดันเชิงนโยบายเพื่อรณรงค์ภัยบุหรี่ไฟฟ้าและการทำสื่อรณรงค์ สิ่งสำคัญคือจะต้องทำให้สังคมรับรู้และให้สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวสารมากที่สุดตามหลักทฤษฎีการสื่อสาร เพื่อให้ได้เสียงข้างมากมาอยู่กับเรา โดยการใช้เครื่องมือการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Tiktok  Youtube และทำคอนเทนต์ให้อยู่ในกระแสความสนใจของสังคมเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย” ดร.ดนัย ให้มุมมอง

“เครือข่ายเยาวชนไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”

เสนอ 5 ข้อเรียกร้อง ป้องภัยบุหรี่ไฟฟ้า

จากการระดมความคิดเห็นของเครือข่ายเยาวชนไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้าจากหลายองค์กร ได้ข้อสรุปเชิงนโยบายและการขับเคลื่อน จากเครือข่ายเยาวชนไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้าจาก 12 องค์กร ออกมา 5 ข้อ เพื่อเรียกร้องต่อผู้นำประเทศ หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชนและสังคมไทย ให้ร่วมมือปกป้องจากพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า


เด็กหญิงบุญภัทร บุตรบุญ นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน และนายภษิณ ทัดพลภัทรรัต โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2 ในนามตัวแทนเครือข่ายเยาวชนไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า 12 องค์กรกว่า 100 คน กล่าวว่า  เครือข่ายเยาวชนไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า ขอเรียกร้องผ่านข้อเสนอเชิงนโยบายและการขับเคลื่อน ดังนี้ 

1.การสื่อสารและการสร้างความเข้าใจในสังคมโดยร่วมพลังสื่อสารจากอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังและสร้างอินฟลูเอนเซอร์รุ่นเยาว์ เพื่อขยายกระแสรณรงค์ในสังคมอย่างต่อเนื่อง ให้เสียงของเยาวชนเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า 2. มีส่วนร่วมในเชิงนโยบายและกฎหมายโดยเปิดโอกาสให้เยาวชนมีที่นั่งและมีเสียงในคณะทำงานควบคุมยาสูบระดับชาติ พร้อมร่วมเสนอแนวทางและผลักดันการบังคับใช้กฎหมายที่ปกป้องเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง  

3.เฝ้าระวังและจับตาธุรกิจยาสูบและสื่อออนไลน์โดยจัดตั้งกลุ่มเยาวชนเฝ้าระวังธุรกิจยาสูบและเนื้อหาบนโลกออนไลน์ที่แฝงการบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมประสานหน่วยงานรัฐเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและรวดเร็ว 4.สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชน โดยตั้งกลุ่มแกนนำในสถานศึกษา โรงเรียน และชุมชนเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมปลอดบุหรี่ไฟฟ้าและสร้างพื้นที่กิจกรรมสำหรับเยาวชน และ 5.เยาวชนเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ผลลัพธ์ของนโยบาย แต่ต้องเป็นผู้กำหนดทิศทาง ร่วมออกแบบและผลักดันการสร้างสุขภาพ ความยุติธรรมและความยั่งยืนตั้งแต่ต้น


เราขอประกาศว่า เยาวชนไม่ใช่เพียงอนาคตของชาติ แต่คือพลังสำคัญของวันนี้ เสียงของเราคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลง และเราจะไม่หยุดยืนหยัดจนกว่าสังคมไทยจะปลอดบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแท้จริง” เด็กหญิงบุญภัทร กล่าว

Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)