“รมว.ปุ๋ง” เดินหน้ายกระดับ “ไหลเรือไฟนครพนม” สู่เทศกาลระดับโลก ปลุกพลัง Soft Power ไทย โชว์แสงไฟแห่งศรัทธาให้โลกเห็น11 วัน 11 คืน 27 ก.ย. – 7 ต.ค.นี้ ริมแม่น้ำโขง จ.นครพนม
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบูรณาการเพื่อยกระดับ “ประเพณีไหลเรือไฟนครพนม” สู่เทศกาลระดับโลก ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการจัดงานประจำปี 2568 ให้ก้าวสู่ระดับ “World Event” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและขับเคลื่อน Soft Power ไทยสู่สายตาชาวโลก โดยที่ประชุมได้มีมติให้จัดตั้ง คณะอนุกรรมการ 2 ชุด เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการกำหนดแนวทางและกิจกรรม เพื่อยกระดับเทศกาลไหลเรือไฟให้เป็นงานระดับนานาชาติ และ 2.คณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อวางแผนและดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารแบบครบวงจร สร้างการรับรู้ทั้งในประเทศและระดับสากล โดยมีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการบูรณาการเพื่อกำหนดแนวทางจัดงานยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสงวน มะเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายกฤษณะ วจีไกรลาส คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการบูรณาการเพื่อกำหนดแนวทางการจัดงาน ยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก เข้าร่วม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม และในรูปแบบการประประชุมออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting
ทั้งนี้ งานไหลเรือไฟนครพนมเป็นหนึ่งเดียวในโลก สะท้อนพลังความศรัทธาและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวลุ่มน้ำโขง และในปีนี้ วธ.จะยกระดับให้แตกต่างและน่าจดจำกว่าทุกปีโดยขับเคลื่อนแบบบูรณาการทุกภาคส่วนให้เป็นเทศกาลที่ทั่วโลกอยากมาสัมผัส
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลมอบให้ วธ.บูรณาการร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กรมประชาสัมพนธ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดนครพนมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายวัฒนธรรม สถาบันการศึกษากว่า 16 หน่วยงานในการยกระดับประเพณีไหลเรือไฟสู่ World Event ที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 7 ตุลาคม 2568 รวม 11 วัน 11 คืนบนพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จ.นครพนม
อย่างไรก็ตามการยกระดับเทศกาลเพื่อบูรณาการการทำงาน 4 มิติหลัก ได้แก่ มิติวัฒนธรรม สืบสานภูมิปัญญาเรือไฟ เสริมบทบาทศิลปินท้องถิ่น มิติเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากท่องเที่ยว อาหาร และสินค้าอัตลักษณ์ มิติสังคม ดูแลความปลอดภัย สุขภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และมิติสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนแนวคิด Zero Waste รักษ์แม่น้ำโขง”
“วธ.มุ่งใช้ประเพณีไหลเรือไฟเป็นเวทีส่งต่อคุณค่าทางวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย พร้อมตอกย้ำอัตลักษณ์นครพนมให้เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง” รมว.วัฒนธรรม กล่าว