X
ช่วยเต็มที่ ไม่ทิ้งกัน นายกฯ สั่งดูแลทหารบาดเจ็บจากระเบิด

ช่วยเต็มที่ ไม่ทิ้งกัน นายกฯ สั่งดูแลทหารบาดเจ็บจากระเบิด

6 ม.ค. 2566
640 views
ขนาดตัวอักษร

..66 - นายกฯ มอบกองทัพดูแลผู้บาดเจ็บ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด หลังประสบเหตุจากการเก็บกู้ระเบิด พื้นที่ช่องพระพะลัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ


พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มอบหมายให้ พลเอก ศุภธัช นรินทรภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าเยี่ยมอาการของ สิบเอก วรงค์กร ศรีงาม ซึ่งประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิด บริเวณพื้นที่ ช่องพระพะลัย ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเข้ารักษาอาการบาดเจ็บ  โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ตำบลวารินชำราบอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้น จำนวน 40,000 บาท


จากนั้นเดินทางไปให้กำลังใจกับกำลังพลผู้ปฏิบัติงาน  ที่ตั้งหน่วย บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยทา ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทั้งได้นำความห่วงใยของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้กล่าวยกย่องกำลังพลในการปฏิบัติงานที่มีความยากลำบาก ตรากตรำ และเสียสละ จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งขอชื่นชมกำลังพลของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติทุกนายที่ทุ่มเท อุทิศตน ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ ขอให้มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ต่อไป 

ก่อนที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้เดินทางไปร่วมเคารพศพ สิบเอกอัครพล ภูวดลวรนารถ  โรงพยาบาลขุนหาญ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ กองทัพจะดำเนินการด้านสิทธิประโยชน์ของกำลังพลผู้เสียชีวิตตามระเบียบราชการอย่างครบถ้วนต่อไป


สำหรับ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจำนวน 164 ประเทศ ที่ได้ลงนามเข้าร่วมเป็นรัฐภาคี ของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2540  กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา (อนุสัญญาออตตาวาโดยอนุสัญญาฯ ดังกล่าว มีผลบังคับใช้ต่อประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2542 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลให้ประเทศไทยมีพันธกรณีหลัก 5 ประการ เรียกรวมกันว่า “การปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Mine Action)” ได้แก่ การทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่สะสมไว้คงคลัง ให้หมดไปภายใน 4 ปี (ปัจุบันดำเนินการเสร็จเรียบร้อยการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้หมดไปจากประเทศ การแจ้งเตือนและให้ความรู้อันตรายจากทุ่นระเบิดแก่ประชาชน การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด และการดำเนินการทางกฎหมายให้เป็นไปตามอนุสัญญาฯ 

ปัจจุบัน จากการสำรวจพื้นที่ในประเทศไทย พบว่ายังคงมีพื้นที่อันตรายที่ต้องดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอีกจำนวน29.7 ตารางกิโลเมตร ใน 6 พื้นที่จังหวัด โดยที่ผ่านมา กองทัพไทยได้ดำเนินการเก็บกู้เป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว จำนวน2,527 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 21 จังหวัด และจะยังคงดำรงการปฏิบัติงานด้านการเก็บกู้เก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)