X
รู้จัก... วันทหารผ่านศึก 3 ก.พ. เชิดชูทหารกล้า

รู้จัก... วันทหารผ่านศึก 3 ก.พ. เชิดชูทหารกล้า

3 ก.พ. 2566
560 views
ขนาดตัวอักษร

รู้หรือไม่... ในวันที่ 3 ก.พ. ของทุกปี จะตรงกับ “วันทหารผ่านศึก” เพื่อเชิดชูเกียรติและให้ความช่วยเหลือทหารกล้าของไทยเราตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2 ทาง BackboneMCOT เลยขอพาไปดูว่าวันนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และเหตุใด ดอกป๊อปปี้สีแดง จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ ในวันทหารผ่านศึก 


ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารไทย ที่ถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในการรบถูกปลดปล่อยอย่างกระทันหัน ทำให้เกิดความเดือดร้อนในการครองชีพ โดยเฉพาะครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือทหารที่พิการทุพพลภาพ ดังนั้น เพื่อหาทางช่วยเหลือทหารผ่านศึกเหล่านี้ รัฐบาลไทยในสมัยนั้น ซึ่งมีพลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้พิจารณาดำเนินการช่วยเหลือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการพิจารณาหาทางช่วยเหลือทหารกองหนุน" เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2488 คณะกรรมการชุดนี้ได้ปฏิบัติงานโดยใช้สำนักงานและเจ้าหน้าที่ของกรมเสนาธิการ ทหาร (ปัจจุบันคือ กองบัญชาการทหารสูงสุด) และได้พิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนจากงบประมาณของกระทรวงกลาโหมจำนวนหนึ่ง เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึกนอกประจำการเหล่านั้น


วันทหารผ่านศึก มีจุดเริ่ม ในปี 2490 กระทรวงกลาโหมอันเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยตรง จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่ กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบ ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้ง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 จึงได้ยึดเอาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก จากนั้นในปี พ.ศ.2510 องค์การทหารผ่านศึกได้ปรับเปลี่ยนฐานะมาเป็นองค์การเพื่อการกุศลของรัฐ และเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงกลาโหมและเงินที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นครั้งคราว

 

องค์การสงเคราะห์ทหาร ผ่านศึก ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการ ที่ต้องให้การสงเคราะห์ รวมประมาณสามล้านกว่าคน


โดย ดอกป๊อปปี้ ได้มาเกี่ยวข้องกับวันทหารผ่านศึก เนื่องจาก ดอกป๊อปปี้ สีแดง นั้น เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อปปี้ คือ เลือดของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด


การจัดทำดอกป๊อปปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกเกิดจากดำริของ ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือ มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหาร และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศจึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึง สมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยม และ เนเธอร์แลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ใน สงครามโลกครั้งที่ 1


โดยสงครามในครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิศมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมา ดอกป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ


ฉะนั้น เพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกับในต่างประเทศ และมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา


3 กุมภาพันธ์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่วันสำคัญดังที่กล่าวมาแล้วเท่านั้น ความสำคัญของวันทหารผ่านศึกยังเกี่ยวข้องกับ "อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ" อนุสรณ์สถานที่จะต้องมีการวางพวงมาลาของบุคคลสำคัญของประเทศเพื่อคารวะดวงวิญญาณของทหารหาญและเหล่าวีรชนคนกล้า ที่มีชื่อจารึกอยู่บนอนุสาวรีย์ เป็นการเทิดเกียรติแก่คนเหล่านั้นที่ได้เสียสละชีพเพื่อชาติ และปกป้องอธิปไตยของชาติไทยในเหตุการณ์พิพาทระหว่างไทยและฝรั่งเศส ในการเรียกร้องดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคืน


อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถูกสร้างขึ้นเพื่อจารึกรายนามของทหารหาญและวีรชนที่เสียชีวิตใน สงครามข้อพิพาทแย่งดินแดนระหว่างไทยและฝรั่งเศส รวมทั้งทหารที่เสียชีวิตใน สงครามมหาเอเซียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) และ สงครามเกาหลี เป็นอนุสาวรีย์กลางเพื่อเทิดทูนวีรชนผู้สละชีพเพื่อชาติทั้งปวง และเพื่อเตือนใจชาวไทยให้ระลึกว่า ชาติไทยนั้นดำรงเอกราชและรักษาความมั่นคงของชาติอยู่ได้ด้วยบรรดา วีรชนนักรบไทย ผู้ซึ่งได้เสียสละชีพเพื่อชาติตลอดมา


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.fleet.navy.mi.th


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)