นกเค้า ... ไม่ใช่นกเรา...เพราะฉะนั้น (ห้ามครอบครอง) เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้โพสต์ภาพของนกเค้าและคำเตือนในเรื่องการครอบครอง เจ้านกเค้า โดยระบุว่า....
ถ้ามีใครมาถามว่านกชนิดไหนที่มองภายนอกดูบ้องแบ๊วสุด ๆ ตอนนี้แอดก็คิดออกแต่ “ เจ้านกเค้า ” ด้วยความที่ตาโตกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา และมีบุคลิกน่ารักเลยทำให้ผู้คนอยากได้มาครอบครองและนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงแต่นกเค้าคือสัตว์นักล่าที่มีสัญชาตญาณการล่าอยู่ภายในตัวอย่างเต็มเปี่ยม พวกมันจึงเหมาะกับการอาศัยอยู่ตามธรรมชาติมากกว่ามาอยู่ในกรงเลี้ยง
ความจริงของนกเค้าที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้คือ พวกมันไม่ได้ขาสั้นอย่างที่เห็น แต่ขาที่แท้จริงของมันถูกปกคลุมด้วยขนหนา ๆ จนทำให้ดูเหมือนขาสั้นนั้นเอง
นกเค้าสามารถหมุนหัวได้ถึง 270 องศา เพราะด้วยความที่มันมีกระดูกสันหลังตรงคอถึง 14 ชิ้น การหมุนหัวไปรอบทิศของมันเลยเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นได้โปรดอย่าตกใจถ้าเห็นมันหันหัวมาถึงด้านหลังได้ พวกมันหาใช่นกผีอย่างที่ใครกล่าวอ้าง
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ นกเค้าบางสายพันธุ์สามารถแสดงพฤติกรรมบางอย่างเพื่อเอาตัวรอดจากศัตรูได้โดยการเปลี่ยนตัวเองให้ดูน่าเกรงขาม เช่น การเปลี่ยนสีหน้าท่าทางให้ดูน่ากลัว หรือการกางปีกให้ดูตัวใหญ่ ๆ
แม้ว่านกเค้าจะถูกจัดอยู่ในประเภทนกล่าเหยื่อ แต่บางสถานการณ์มันก็ตกเป็นเหยื่อของพวกนกล่าเหยื่อชนิดอื่นอย่างพวกเหยี่ยวหรืออินทรีด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่นกเค้าบางชนิดชอบออกหากินในตอนกลางคืน
ถึงคุณจะอยากเป็นเฮอร์ไมโอนี่หรือแฮร์รี่พอตเตอร์ก็ไม่สามารถครอบครองนกเค้าได้นะจ๊ะ เพราะนกเค้าทุกชนิดในไทยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้าม ซื้อ ขาย หรือมีไว้ในครอบครอง หากฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
มาทำความรู้จักนกเค้าหรือนกฮูกกันเถอะ
นกเค้า หรือ นกฮูก เป็นนกที่อยู่ในอันดับ Strigiformes มีรูปใบหน้าคล้ายแมว อันเป็นที่มาของชื่อสามัญ จับสัตว์เล็ก ๆ กินเป็นอาหาร เช่น ค้างคาว หนู, งู สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเล็ก ๆ ในขณะที่บางชนิดที่มีขนาดใหญ่อาจจับปลาหรือปูกินได้ด้วย จัดเป็นนกล่าเหยื่อจำพวกหนึ่งเหมือนเหยี่ยว, อินทรี และแร้ง ที่หากินในเวลากลางวัน ส่วนนกเค้าแมวนั้นมักหากินในเวลากลางคืน ทำให้มีเล็บโค้งแหลมและมีปากงุ้มแหลมสำหรับจับสัตว์กิน
เหตุที่หากินในเวลากลางคืน เป็นเพราะนกเค้าไม่อาจสู้กับนกล่าเหยื่อในเวลากลางวันอย่างเหยี่ยวหรืออินทรีได้ บางครั้งยังถูกนกที่มีขนาดเล็กกว่าอย่างนกเอี้ยงหรือนกกิ้งโครงไล่จิกตีอีกต่างหาก
เนื่องจากเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน จึงมีดวงตาโตกว่าเหยี่ยวและอินทรีมาก ดวงตาอยู่ด้านหน้าของใบหน้าเหมือนมนุษย์และสัตว์ตระกูลแมว หัวหมุนได้เกือบรอบตัวได้ถึง 270 องศา เนื่องจากมีกระดูกสันหลังตรงคอ 14 ชิ้น ซึ่งมากกว่าสัตว์ชนิดใด ๆ ในโลกหูของนกเค้าแมวมีความไวมากเป็นพิเศษสำหรับการฟังเสียงในเวลากลางคืนและหาเหยื่อ มีขนปีกอ่อนนุ่ม บินได้เงียบเพื่อไม่ให้เหยื่อรู้ตัว และมีประสาทสายตาที่มองเห็นได้ดีกว่ามนุษย์ถึง 100 เท่าโดยปกติแล้วตัวเมียมีขนาดโตกว่าตัวผู้ ตัวเมียเป็นตัวที่กกไข่ ตัวผู้ไม่กกไข่ มักพบก้อนที่สำรอกคายออกทิ้งลงมาที่พื้นเบื้องล่างในรังหรือบริเวณใกล้เคียงกับรัง เพราะนกเค้าแมวมักกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว กระดูกและขนที่ไม่ย่อยก็สำรอกออกมาเป็นก้อนทิ้งทีหลัง
ที่มา : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช