6 มี.ค.64 - วราวุธ นำทีมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชูต้นแบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ชวนผู้นำศาสนาโรงเรียนช่วยกันแก้ปัญหาขยะ ลดภาวะโลกร้อน และมลพิษจากขยะใช้แล้วทิ้ง
ปัญหาขาดแคลนน้ำยังเป็นปัญหาหลักทั่วภูมิภาคของไทย รวมถึงภาคใต้ที่ประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัดยังขาดแคลนน้ำใช้ประโยชน์ เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำสำรองเพียงพอใช้ตลอดทั้งปี กระทรวงทรัพยากรธรรชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ และคณะผู้บริหารฯ ได้ลงพื้นที่ล่องใต้ 3 จังหวัด ระหว่างวันที่ 5 – 6 มีนาคม 2564 จังหวัดพัทลุง จังหวัด ปัตตานี และยะลา
โดยได้ส่งมอบโครงการก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชนบ้านต้นไทร จ. พัทลุง สำหรับเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร และเพื่อป้องกันบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน สามารถผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคได้ไม่น้อยกว่า 58,400 ลูกบาศก์เมตร/ปี ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ ไม่น้อยกว่า 2,400 ครัวเรือน
จากนั้นลงพื้นที่ทะเลน้อย ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) พร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ "พัทลุงมุ่งสู่เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน" และมอบหนังสืออนุญาต คทช. หนังสือแสดงป่าชุมชน และเงินอุดหนุนให้เครือข่ายป่าชุมชนฯ โดยมอบเงินสนับสนุนเครือข่ายแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน มอบถุงยังชีพ และอุปกรณ์สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่จังหวัดพัทลุง
ส่วนในวันนี้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ติดตามการดำเนินงานอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตรวจสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณน้ำตกทรายขาว รวมทั้งให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน พร้อมมอบต้นไม้โครงปลูกป่าและป้องกันไฟป่า และมอบถุงยังชีพแก่เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ
โดยยังเดินหน้าความร่วมมือกับเครือข่ายและผู้นำศาสนาร่วมขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นำร่องมัสยิด 516 แห่ง ทั่วจังหวัดยะลา ภายใต้ “โครงการขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด จังหวัดยะลา และโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ” ซึ่งจัดขึ้นโดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ก่อนขยายผลครอบคลุม อีก 2 จังหวัด (ปัตตานีและนราธิวาส) มากกว่า 1,000 แห่ง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ปัญหาขยะเป็นวิกฤตสิ่งแวดล้อมระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งรัฐบาลได้ตระหนักและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังภายใต้ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.2561 - 2573 ที่จะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกลงได้ 780,000 ล้านตัน/ปี ลดงบประมาณการจัดการขยะมูลฝอย 3,900 ล้านบาท/ปี ประหยัดพื้นที่ฝังกลบและกำจัดขยะมูลฝอยพลาสติก 2,500 ไร่
อีกทั้งลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่สคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 ล้านตัน โดยมีเป้าหมายนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ ร้อยละ 100 ภายในปี 2570
ซึ่งภายในปีหน้าครบกำหนดที่พลาสติกอีก 4 ชนิด ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วน้ำพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และหลอดพลาสติก (หลอดเครื่องดื่มทั่วไป) จะต้องหมดไป
ซึ่งตอนนี้โลกของเราเหลือเวลาอีกเพียง 6 ปีกว่า
ตามเวลาของ Climate Clock หากเราทำให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 1.5-2 องศาเซลเซียส โลกจะต้องเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างรุนแรง จึงจำเป็นที่ต้องช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
โดยเน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งและจริงจัง ซึ่งความร่วมมือในพื้นที่ภาคใต้นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน
ทั้งนี้ศาสนสถานมีส่วนสำคัญในการเป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดขยายผล ช่วยผลักดันให้การขับเคลื่อนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมประสบผลสำเร็จได้ เนื่องจากเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชนทุกคน และในภาคใต้มีจำนวนมัสยิดมากที่สุด มากกว่า 3,000 แห่ง เกินครึ่งอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนยังสามารถนำหลักศาสนามาประยุกต์ใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบ การจัดการขยะ และการมีส่วนร่วมของชุมชน
สำหรับการจัดการสิ่งแวดล้อมในมัสยิด จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการดูแลสุขภาพอนามัยทั้งกายและใจของผู้นำศาสนาและประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้ รมว.ทส. ได้มอบตราสัญลักษณ์ “การจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด” ให้กับรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา โดยยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการธนาคารขยะในโรงเรียน สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ การลดพลาสติกและโฟม การเลี้ยงไส้เดือนกำจัดขยะ และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับผู้แทนนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิซึ่งเป็นโรงเรียนตัวอย่างความสำเร็จจากการนำแนวคิดการลดพลาสติกและโฟมที่ต้นทางมาประยุกต์ใช้จนเกิดความสำเร็จต่อเนื่อง มากกว่า 13 ปี เป็นโรงเรียนปลอดโฟมและปลอดถุงหิ้วพลาสติก
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดบูรณาการการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งนี้ ให้ทุกกรมจัดเตรียมบุคลากร ยานพาหนะ และอุปกรณ์ในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์ฯ ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ