10 เม.ย.68 - หนองคายจัดใหญ่ เล่นน้ำสงกรานต์ให้ฉ่ำ ตลอดเส้นทาง 3 อำเภอริมแม่น้ำโขง “มหาสงกรานต์ แฉะ ชุ่ม ฉ่ำ” เชื่อมสัมพันธ์ไทย-ลาว พร้อมจัดเต็มความม่วนซื่นรับนักท่องเที่ยว
สงกรานต์ 2568 ปีนี้ แนะนำอีกจังหวัดที่ขอจัดเต็ม ฉลองเทศการมหาสงกรานต์ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ชวนมาแวะเที่ยว มาม่วนซื่นกับงาน “มหาสงกรานต์ แฉะ ชุ่ม ฉ่ำ” ระหว่างวันที่ 12-13 เมษายน 2568 พิเศษสนุกเพิ่มขึ้น กับ 3 อำเภอริมแม่น้ำโขง อำเภอเมือง อำเภอโพนพิสัย และอำเภอท่าบ่อ
นางชนก จันทาทอง สส.จังหวัดหนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปีนี้พิเศษมากกว่าทุกปี ขอส่งความสุขให้ชาวหนองคาย และนักท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมมหาสงกรานต์ใน 3 อำเภอตามแนวแม่น้ำโขง ทั้งอำเภอเมือง อำเภอโพนพิสัย และอำเภอท่าบ่อ โดยมีคอนเสิร์ตศิลปินอีสาน ดีเจ เปิดแผ่น เช่น แร็พอีสาน , แสงดาว พิมมะศรี , เต๊ะตระกูลตอ ,กระต่าย พรรณนิกา , ปาร์ค ภัทรพงศ์ ,หมูยอ เอมปวีร์ , ก๊อต สุทธิรักษ์ , โบนัส ภัทธิรา
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแห่พระ สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัว สักการะหลวงพ่อพระใสที่อำเภอเมือง สักการะหลวงพ่อพระเสี่ยง อำเภอโพนพิสัย ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ เสริมมงคลรับเทศกาลปีใหม่ไทยอีกด้วย
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า มหาสงกรานต์ แฉะ ชุ่ม ฉ่ำ จังหวัดหนองคาย ยังเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ ประเทศไทย ซึ่งหนองคายเป็นจังหวัดที่สำคัญ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเมืองหลวงของประเทศลาว พอดิบพอดี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่เห็นความสำคัญที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านยังสามารถเข้ามาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นการกระจายรายได้ให้กับประชาชนริมแม่น้ำโขง
งาน “มหาสงกรานต์ แฉะ ชุ่ม ฉ่ำ”จะมีคนมาเที่ยวและมีเงินเข้าจังหวัดมากขึ้นกว่าทุกปี โดยเฉพาะร้านอาหาร โรงแรม พร้อมให้ความมั่นใจนักท่องเที่ยวถึงความปลอดภัย เตรียมความพร้อมของตำรวจท่องเที่ยว ร่วมมือกับตำรวจทุกกองบัญชาการ ดูแลนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ
ทำไมไปหนองคาย ต้องขอพร “หลวงพ่อพระใส”
🙏 “หลวงพ่อพระใส” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดโพธิ์ชัย” ซึ่งเป็นพระอารามหลวง เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง ชางบ้านร่ำลือเรียกกันว่า “วัดผีผิว” เนื่องจากเคยใช้เป็นสถานที่ฌาปนกิจ ก่อนที่จะมีการบูรณะใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็นวัดโพธิ์ชัย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จเป็นองค์ประธาน ยกช่อฟ้าพระอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ. 2522 ต่อมาเป็นวัดที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” นับแต่นั้น
•
หลวงพ่อพระใส มีตำนานเหล่าว่า เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับพระพุทธรูปอีก 3 องค์ เรียกว่าพระพุทธรูปสามพี่น้อง คือ “พระเสริม พระสุก และพระใส” เชื่อกันว่า พระธิดา 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ ถวายนามพระพุทธรูปตามพระนามของแต่ละพระองค์ คือ
“พระเสริม” เป็นพระประจำพระธิดาองค์ใหญ่
“พระสุก” ประจำพระธิดาองค์กลาง
“พระใส”ประจำพระธิดาองค์เล็ก
•
เดิมพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ที่นครเวียงจันทน์ จนในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 ลงเรือข้ามแม่น้ำโขงมายังเมืองหนองคาย ในขณะนั้นดันเกิดพายุพัดแรงจนทำให้ “พระสุก” ตกน้ำจมหายไป ส่วน “พระเสริม” และ “พระใส” ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่จังหวัดหนองคาย ได้สำเร็จ
•
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ พระเสริมและพระใส มายังกรุงเทพฯ แต่พอขบวนเดินทางมาถึงวัดโพธิ์ชัย หลวงพ่อพระใส ได้แสดงปาฏิหาริย์ เกิดเหตุให้เกวียนหัก จนไม่สามารถอัญเชิญหลวงพ่อพระใสเดินทางกลับลงไปยังกรุงเทพฯได้ ดังนั้น “หลวงพ่อพระใส” จึงถูกอัญเชิญให้ประดิษฐาน ที่ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน ส่วนหลวงพ่อพระเสริม สามารถอันเชิญ ลงมายังกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ มาประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม
“หลวงพ่อพระใส” เชื่อว่าสร้างขึ้นในช่วงยุคสมัยล้านช้าง ราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 สร้างจากโลหะผสมทองแดง ขนาดหน้าตักกว้าง 83 เซนติเมตร สูง 107 เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสีสุก พระรัศมีถอดได้ประดับด้วยพลอย ประดิษฐานบนฐานกว้าง 139 เซนติเมตร สูง 88 เซนติเมตร
•
โดยทุกวันสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ชาวหนองคาย จะอัญเชิญ “หลวงพ่อพระใส” ลงจากพระอุโบสถ เพื่อลงมาแห่รอบพระอุโบสถ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่ราชรถ ขบวนหลวงพ่อพระใสและพระบริวารทั้งหมดออกแห่รอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ด้วยสภาพองค์จริงชำรุด และต้องบูรณะใหม่ จึงมีการสร้างหลวงพ่อพระใสองค์จำลอง สำหรับให้ประชาขนสรงน้ำ และแห่ในช่วงสงกรานต์แทนนับตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา
•
ขอบคุณภาพหลวงพ่อพระใสจาก : unseen thailand และ วัดโพธิ์ชัย