20 ก.ย.64 - อ.อ๊อด ไขปริศนา ถ่ายรูปควันธูปแล้วปรากฎเป็นรูปประหลาด คล้ายหน้าคน ชี้ชัดเกิดจากจังหวะการถ่ายภาพ ผสมจินตนาการคนดู เรียกอาการ “แพริโดเลีย” อาการที่เห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของที่ไม่มีชีวิตเป็นใบหน้าคน หรือรูปร่างต่าง ๆ
หลังจาก อาจารย์อ๊อด หรือ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรูปภาพถ่ายปริศนา เป็นควันธูปที่ลอยในอากาศ แต่ปรากฎว่ามีลักษณะที่คล้ายหน้าคน ชาวเน็ตเชื่อต่างๆนานา บางว่าเป็นภูติผี วิญญาน บ้างบอกว่าเป็นควันธรรมดา
อาจารย์อ๊อด ได้อธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าวไว้ว่า เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เกิดจากการถ่ายภาพแล้วเปิดแฟลชเมื่อแสงไปกระทบกับควันซึ่งเป็นวัตถุ จึงปรากฎเป็นภาพต่างๆขึ้นมาได้ ทั้งนี้ภาพที่จะปรากฎจากการถ่ายรูปนั้น เกิดขึ้นได้แล้วแต่จังหวะของการถ่ายภาพนั้นเอง สามารถมองคล้ายสิ่งใดก็ได้ตามแต่จินตนาการของผู้เห็น
เช่นภาพดัฃกล่าว บางคนมองคล้ายหน้าคน บางคนเห็นว่คล้ายแมว, ผีเสื้อ, หรือจินตนาการล้ำมองเป็นไอ้มดแดง จึงไม่น่าจะเกี่ยวของกับไสยศาสตร์ อยู่ที่จินตนาการของผู้มองวัตถุนั้นล้วนๆ
สำหรับอาการที่มองเห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของที่ไม่มีชีวิต เป็นใบหน้าคน หรือรูปร่างต่าง ๆ เรียกว่า “แพริโดเลีย” (Pareidolia) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของจิตใจ ที่ส่งผลต่อไปยังสมอง ทำให้เราเห็นสิ่งของไร้ชีวิตเหมือนมีใบหน้ายิ้มแย้ม หรือกลายเป็นรูปร่างต่าง ๆ ซ้อนทับ
.
ซึ่งศาสตราจารย์คัง ลี อาจารย์ประจำคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโทรอนโต ได้อธิบายผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า ปรากฏการณ์แพริโดเลียเกิดขึ้นจากทักษะการจดจำใบหน้าที่มนุษย์มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
เราจึงมีแนวโน้มที่จะเห็นสิ่งของ ธรรมชาติ หรือสิ่งไร้ชีวิตมีลักษณะคล้ายใบหน้าคน สัตว์ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในความทรงจำอันคุ้นเคย ซึ่งภาพที่เห็นเหล่านี้ก็มาจากการปรุงแต่งของสมองบวกกับจินตนาการส่วนตัวของแต่ละบุคคลนั่นเอง
.
รวมทั้งผลการวิจัยจาก University of Toronto, Beijing Jiaotong University, Xidian University และสถาบันAutomation Chinese Academy of Sciences ค้นพบว่า ปรากฏการณ์แพริโดเลีย (Pareidolia) จะเกิดที่บริเวณสมองส่วนหน้า และสมองส่วนการมองเห็น (Visual Cortex) โดยสมองส่วนหน้าจะส่งข้อมูลไปยังประสาทส่วนหลังของสมองส่วนการมองเห็น จากนั้นสมองส่วนการมองเห็นจะทบทวนความทรงจำ และพยายามตีความสิ่งเร้า (สิ่งที่มองเห็น ณ ขณะนั้น) ออกมาเป็นภาพได้
.
อย่างไรก็ตาม การมองเห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของต่าง ๆ เป็นรูปร่างแปลก ๆ ยังอาจเกิดจากการโน้มน้าวด้วย เช่น ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งของเหมือนรูปอะไร ทว่าพอมีคนชี้นำว่าเหมือนรูปนั้นรูปนี้ก็เห็นคล้อยตามทันที