ครม. สั่งการ ก.ท่องเที่ยวฯ เร่งจัดตั้ง สำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัด ศึกษาการประกาศ พะเยา เป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมขอให้ ก.คมนาคม ศึกษาการสร้างสนามบินพะเยา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่าน แพร่) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัด จำนวน 9 โครงการ วงเงิน 155 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการโครงการของภาคเอกชน จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 145 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งจัดทำสำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัด และศึกษาถึงการประกาศจังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมให้กระทรวงคมนาคม ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินพะเยา และที่สำคัญต้องพยายามตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวประจำจังหวัดพะเยาให้ได้ภายในไตรมาส 4 นี้
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กรมทางหลวง เร่งประสาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำเรื่องขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการขยายเส้นทางจราจรบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก จังหวัดพะเยา และการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1A เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่าง ไทย-ลาว ซึ่งปัจจุบันมียอดสั่งซื้อวัวหลายแสนตัว
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานต่างๆ บูรณาการผลิตลำไย ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้ปริมาณการผลิตสมดุลกับความต้องการของตลาด และเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพสูง มีความปลอดภัย มีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูปลำใยที่หลากหลาย เพื่อทำให้ราคาลำไยมีประสิทธิภาพและไม่เกิดภาวะล้นตลาด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตามที่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการลด หรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร จากประเทศเพื่อนบ้าน ที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผานั้น ปัจจุบันไทยยังได้รับผลกระทบจากการเผาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นขอให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอก และการนำเข้าในราชอาณาจักร เพื่อกำหนดนโยบายการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น โดยขอให้เป็นไปตามข้อตกลง WTO ระหว่างประเทศด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต้องให้ตรงกับพระราชบัญญัติอากาศสะอาดที่กำลังจะผ่านวาระของสภาด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน และการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยและกลุ่มประเทศแอฟริกา เช่น ไนจีเรีย ซิมบับเว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีแหล่งทรัพยากรมาก และยังเป็นแหล่งพลังงานด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า จากการที่ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ TK Park เมื่อวานนี้(18 มี.ค.) ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ และสร้างอาชีพให้กับเยาวชนได้ มีการนำองค์ความรู้มาบ่มเพาะ จึงสั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์กรความรู้ของกระทรวงมหาดไทย แก้กฎเพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจ และส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนต่อไป