คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง "จังหวัดปกครองตนเอง : จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่" โดยมี นายอภิชาติ งามกมล ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวเปิดงาน นายอภินันท์ เผือกผ่อง ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการกระจายอำนาจ การถ่ายโอนภารกิจและการจัดสรรรายได้ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม
นายอภิชาติ งามกมล ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นองค์กรภาครัฐที่จัดตั้งตามหลักการกระจายอำนาจการปกครอง อันเป็นหลักการที่รัฐมอบอำนาจการปกครองบางส่วนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อตอบสนองความต้องการหรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นของตน โดยกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจอิสระในการบริหารจัดการต่าง ๆ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล ดังนั้น การจัดสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะนำไปสู่การพัฒนาองค์กรปกครองท้องถิ่นให้มีความพร้อมในการเป็นจังหวัดที่สามารถจัดการตนเองได้ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาและการตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “การกระจายอำนาจในรูปแบบจังหวัดปกครองตนเอง : บริบทและความเป็นไปได้” โดยศาสตาจารย์ ดร.อุดม ทุมโฆสิต อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นอกจากนี้ มีการอภิปรายเรื่อง “การจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ : จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ รองประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และผู้เชี่ยวชาญสถาบันเพื่อการพัฒนาการเมือง รองศาสตราจารย์ ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายอำพล ยุติโกมินทร์ ปลัดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และนายชำนาญ จันทร์เรือง ประธานภาคีเครือข่ายรณรงค์จัดตั้งเชียงใหม่มหานคร เป็นวิทยากร และมีนายวิฑูร เอี่ยมโอภาส อดีตผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และอนุกรรมาธิการฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ