เกรียงศักดิ์ หรรษาเวก กรรมการผู้จัดการ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศูนย์หนังสือจุฬาฯ) กล่าวว่า ธุรกิจร้านหนังสือ ได้รับผลกระทบและมีการชะลอตัวก่อนที่จะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด--19 พอมีวิกฤตโควิด-19 จึงเหมือนโดยวิกฤตซ้อน โชคดีที่หนังสือส่วนใหญ่ของศูนย์หนังสือฯ เป็นหนังสือวิชาการ ไม่ใช่หนังสือทั่วไป ความเป็นหนังสือวิชาการจึงยังคงมีความต้องการ ศูนย์หนังสืออาจจะได้รับผลกระทบบ้างจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการล็อกดาวน์ทำให้หน้าร้านปิดชั่วคราวยอดขายหน้าร้านจึงลดลง แต่ยังคงไปเพิ่มในยอดขายออนไลน์ที่เติบโตเกือบร้อยละ 20 ของภาพรวมทั้งหมดแม้จะไม่สามารถทดแทนการขายหน้าร้านที่หายไปไม่ได้ เพราะยังอยู่ในช่วงปรับตัว
" เรามาคิดว่าจะมาพึ่งพิงหนังสือที่เป็นรูปเล่มอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ความรู้ ไม่ได้อยู่ในรูปของหนังสืออย่างเดียวแต่มีอยู่ทุกหนแห่ง ในรูปแบบของ e-Book และonline courses หรือ web content เราพยายามปรับตัว แล้วเข้าไปจับเพื่อเป็นสื่ออันหนึ่งที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ได้ "
ปัจจุบันเรามีแพลตฟอร์มขายหนังสือออนไลน์ chulabook.com (จุฬาบุ๊คดอทคอม) ขายหนังสือเล่มผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม e-Book Store รองรับการอ่านอี-บุ๊ค ที่เป็นตำราวิชาการที่มีหนังสือวิชาการมากที่สุดของประเทศ ในสถานการณ์โควิด-19 แพลตฟอร์มที่เราพัฒนาไว้กลับมาได้รับความสนใจ ทั้งการขายตำราวิชาการผ่านอี-บุ๊ค นอกจากนี้เราพัฒนา e-Library ในช่วงโควิด-19 เด็กๆ ต้องเรียนออนไลน์ แต่ไม่สามารถเข้ามาหาหนังสืออ่านจากห้องสมุดได้เ เราจึงพัฒนาแพลตฟอร์ม CU e-Library แพลตฟอร์มที่นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าไปยืมและคืน อี-บุ๊ค ปรากฏว่าแพลตฟอร์มได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานศึกษา CU e-Library เป็นการต่อยอดพัฒนา CU e-Book Store เป็น CU e-Library ให้ห้องสมุดเลือกหนังสือใน CU e-Book Store เลือกหนังสือยืมมาอ่านได้ ทำการคืนได้โดยอัตโนมัติ ระบบจะช่วยบริหารจัดการได้ทั้งหมด ถ้าหนังสือเล่มไหนถูกยืมออนไลน์จะกระตุ้นให้บรรณารักษ์มาซื้ออี-บุ๊คไปเพิ่มระบบนี้แต่ละโรงเรียนแต่ละมหาวิทยาลัยไม่ต้องลงทุนเอง เราพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มบนคลาวด์ ห้องสมุดไม่ต้องลงทุนติดตั้งซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์อะไร
รายได้มาจากการที่ห้องสมุดเลือกใช้หนังสือที่ระบบมีกว่า 1 หมื่นชื่อเรื่อง ซึ่งเราจะขายขาดไปเลยเหมือนขายหนังสือเล่มทำให้มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาที่มีงบประมาณไม่มากแค่ 1-2 หมื่นบาทสามารถมีห้องสมุดออนไลน์ได้
“ CU e-Library จะเป็น S-Curve ใหม่ การให้บริการยืมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ จะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นแน่นอนและจะเป็นส่วนผลักดันให้ศูนย์หนังสือทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการความรู้ได้อย่างสมบรูณ์แบบ “
สิ่งที่เราทำต่อไปคือการต่อยอด CU e-Library ควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบของ course online คนรุ่นใหม่ต้องการสูตรสำเร็จในการเรียนรู้ ที่ไม่จำเป็นต้องเรียนในสถาบันการศึกษาแต่เป็นเรื่องราวความรู้ที่เรียนรู้ได้เองแล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดผลในสิ่งที่เขาสนใจ ในรูปแบบของ e-Learning เราจึงทำเนื้อหาที่คนรุ่นใหม่หรือคนที่มีความสนใจสามารถเรียนรู้ได้ โดยเปิดเป็นแพลตฟอร์มใหม่ Chula Book Course.com ประกอบด้วย e-Learning ที่มีวิทยากรหลายๆ ด้านที่มีความรู้ อาทิ ด้านไอที การทำอาหาร เครื่องสำอาง ฯลฯ รวมบทเรียนที่ทำแล้ว 200 เรื่อง และจะทยอยเพิ่มบทเรียนไปเรื่อยๆแพลตฟอร์มนี้น่าจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอนาคตในการเรียนรู้แบบใหม่รองรับความต้องการของคนยุคปัจจุบัน
เราต้องทรานฟอร์มธุรกิจหนังสือให้เป็นรูปแบบอื่น เมื่อหน้าร้านซบเซาเราก็ต้องมีธุรกิจอื่นในรูปแบบของการเรียนรู้ เราทำทุกอย่างทั้ง e-Learning และ web Blog เปิดโอกาสให้นักเขียนรุ่นใหม่เข้ามาเสนอผลงาน หากเนักเขียนท่านใดได้รับความสนใจมากๆ ก็จะเชิญมาผลิตอี-บุ๊ค ธุรกิจหนังสือปัจจุบันเราจะทำธุรกิจแบบเดิมต่อไปไม่ได้แล้วเราต้องเปลี่ยนแปลง อีกส่วนหนึ่งที่ศูนย์หนังสือเข้าไปทำการตลาดคือ Marketplace เมื่อคนอ่านหนังสือไปอยู่บนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสเราจึงไปเปิดร้านในมาร์เก็ตเพลส ซึ่งก็ได้รับความสนใจและมียอดจำหน่ายที่ดี
"การมีแพลตฟอร์มอี-บุ๊คยังมีส่วนส่งเสริมผู้เขียนหนังสือวิชาการคือคณาจารย์ทั้งหลาย เดิมต้องพิมพ์ตำราเป็นหนังสือเล่มการตีพิมพ์มีต้นทุนสูง การใช้แพลตฟอร์ม CU e-Book Store เป็นเรื่องง่ายที่อาจารย์จะทำหนังสือวิชาการ เพียงแค่เตรียมความพร้อมของต้นฉบับและเอาเข้าสู่การเป็น e-Book ก็สามารถมีหนังสือวิชาการหนึ่งเล่ม CU e-Book Store จึงทำหน้าที่ในการให้บริการวิชาการทั้งกับนักศึกษาและอาจารย์ทำให้การเป็นศูนย์รวมหนังสือวิชาการของ CU e-Book Store มีความเข้มแข็งมากขึ้น อาจจะมีอาจารย์บางท่านกังวลว่าอี-บุ๊คจะมีปัญหาความไม่ปลอดภัยหรือการแอบแคปเจอร์แอบคัดลอก เรามีระบบป้องกันการแคปหน้าจอและดูแลความปลอดภัยในการดาวน์โหลดเอาไปใช้งาน"
"หน้าร้านคนเริ่มกลับเข้ามาบางส่วน หลังจากเริ่มบริหารจัดการกับสถานการณ์ได้แล้ว คิดว่าร้านหนังสือคงไม่ตายแต่ยอดขายจะให้กลับไปเหมือนก่อนคงไม่ได้ ร้านหนังสือคงต้องมีการให้บริการที่หลากหลายรองรับคนหลายวัย ธุรกิจหนังสือต้องมีบริการหลายรูปแบบเพื่อรองรับคนหลายกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมแตกต่างกัน ต้องมีส่วนผสมในรูปแบบที่เหมาะสมของคนทุกวัย"
เรามีเป้าหมายของการดำเนินงานในการเป็น Forrest of Knowledge หรือป่าของความรู้ เมื่อความรู้ไม่ได้อยู่ในรูปแบบเดิมการดำรงเป้าหมายในการเป็นป่าความรู้ เราคงไม่ได้เป็นร้านหนังสืออย่างเดียว เราจะเป็นศูนย์แห่งความรู้ เมื่อความรู้อยู่ในรูปแบบใดเราจะเอาไปดำเนินการในส่วนนั้นเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงความรู้ได้
นอกจากความเป็นวิชาการเรามีความหลากหลายของสำนักพิมพ์ เราไม่เคยเลือกค่าย สามารถรับหนังสือจากทุกสำนักพิมพ์เข้ามาจำหน่าย หน้าร้านของเรายังคงความเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ระดับ 1-2 พันตารางเมตร ความครบถ้วนหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องการให้คนที่เข้ามาใช้บริการได้หนังสือที่ครบถ้วนด้วย