30 ต.ค.64 - ความหวังคนไม่อยากแก่ ใกล้เป็นจริง สวทช. พบสูตร “มณีแดง” ช่วยต้านความแก่ ย้อนวัยคืนความหนุ่มสาว เดินหน้าพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลก
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) เปิดเผยงานวิจัย ความหวังของผู้สูงอายุ ที่อยากมีสุขภาพร่างกาย คงความหนุ่มสาว โดยสามารถต่อยอดยาต้านความชรา จากโมเลกุล “มณีแดง”
•
ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้า ทีมวิจัย สวทช. กล่าวว่า“มณีแดง” คือยีนชนิดหนึ่งของมนุษย์ที่มีหน้าที่ทำให้ “ดีเอ็นเอ” แข็งแรง
•
เนื่องจากความชราเกิดจากดีเอ็นเอถูกทำลาย ซึ่งโมเลกุลมณีแดง มีคุณสมบัติสุดพิเศษ สามารถปกป้องดีเอ็นเอไม่ให้ถูกทำลายอย่างรวดเร็วนั้นเอง โดยตั้งชื่อภาษาอังกฤษ ว่า “REjuvenating DNA by GEnomic stability Molecules” หรือ RED-GEMs มีความหมายว่า “มณีแดง”
•
โดยทีมวิจัยค้นพบรอยแยกของดีเอ็นเอ ซึ่งลักษณะของดีเอ็นเอจะเป็นสายโพลิเมอร์ 2 เส้นที่จับกันเป็นเกลียวคู่ ซึ่งเวลาทำงานดีเอ็นเอเกลียวคู่นี้ จะต้องแยกออกจากกัน ทำให้เกิดแรงบิดและถูกทำลายได้ง่าย ดังนั้นการที่ดีเอ็นเอ ถูกทำลายจากแรงบิดนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เซลล์แก่ลง
รอยแยกของดีเอ็นเอที่ค้นพบใหม่นี้จะช่วยลดแรงบิดลง และปกป้องไม่ให้ดีเอ็นเอถูกทำลายคล้ายกับรอยแยกรางรถไฟ ที่ช่วยปกป้องไม่ให้เกิดการผิดรูปจากความเสียหายต่างๆ โดยในเซลล์ที่ชราจะมีรอยแยกของดีเอ็นเอน้อยกว่าเซลล์หนุ่มสาว ดังนั้นดีเอ็นเอของคนแก่ถึงถูกทำลายมากกว่า
•
ทีมวิจัย จึงได้ทดสอบฉีดมณีแดงเข้าที่ช่องท้องหนูทดลองที่ชราแล้ว พบว่า มณีแดงสามารถสร้างข้อต่อดีเอ็นเอได้สามารถย้อนวัยหนูที่มีเซล์ชราให้กลับมามีรูปร่างและการทำงานเหมือนเซลล์ปกติ เหมือนหนูหนุ่มสาว อีกทั้งยังทำให้หนูชรามีความจำดีขึ้นและคล่องแคล่วว่องไวขึ้นอีกด้วย
•
สิ่งที่พบเพิ่มเติม คือทดสอบจากแผลไฟไหม้ในหนูทดลองที่ชรา ปรากฎว่าหายเร็วขึ้น นอกจากนี้หนูชราที่ได้รับ “มณีแดง” นั้นมีสภาพร่างกายย้อนเวลากลับเป็นเหมือนวัยหนุ่มสาว เห็นได้จากจำนวนเซลล์ชราที่ลดลง, การทำหน้าที่ของตับ, ความทรงจำ, พังผืดของตับ, และโปรตีนอื่น ๆในตับ และในสมอง เป็นไปในทิศทางที่ย้อนวัยอีกครั้ง
•
อีกส่วนที่พบจากการวิจัย “มณีแดง” ประยุกต์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการสะสมสิ่งผิดปกติต่าง ๆ เช่น อมัลลอยในโรคสมองเสื่อม จากอัลไซเมอร์, ปอดเป็นพังผืดจากการติดเชื้อโควิด, เส้นเลือดแข็งจากการมีไขมันสะสมตามผนังหลอดเลือด เป็นต้น
•
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. บอกว่า ขณะนี้ทีมวิจัยของ สวทช. โดย ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสบความสำเร็จในการต่อยอดยาย้อนวัยหรือยาอายุวัฒนะต้านความชรา จากโมเลกุล “มณีแดง” ตาอยอดจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ ที่ค้นพบดีเอ็นเอ (DNA) ในร่างกายของมนุษย์ในสภาวะเหนือพันธุกรรมตัวใหม่ชื่อ “ไรน์อีดีเอสบี” มีลักษณะเป็นข้อต่อดีเอ็นเอที่มีปริมาณน้อยในเซลล์ชรา จนมีการวิจัยพัฒนาต่อมาพบว่าโมเลกุลมณีแดง หรือ RED-GEMs จะช่วยในการเพิ่มข้อต่อดีเอ็นเอลบรอยโรคของดีเอ็นเอ แก้ไขความชราของเซลล์ได้ รวมทั้งมีแนวโน้มจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในผู้สูงอายุ เช่น ความดันโลหิตสูง กระดูกผุ สมองเสื่อม และการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไม่มีประสิทธิภาพจากการสะสมรอยโรคของดีเอ็นเอ เช่น แผลของผู้ป่วยเบาหวานหรือแผลไฟไหม้ เป็นต้น
•
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ยกให้งานวิจัยนี้เป็นการแสดงถึงความสามารถของนักวิจัยไทย ที่สามารถผลิตผลงานวิจัยที่ยอดเยี่ยม สามารถนำมาต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ให้แก่คนไทยและชาวโลก เป็นผลงานวิจัยระดับแนวหน้าที่ควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นผลงานวิจัยโดยฝีมือคนไทยชิ้นแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล
•
โดยมอบหมายให้ สวทช. และหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวง อว. จัดตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนและผลักดันให้นักวิจัยไทยได้รับรางวัลโนเบล ด้วยความเชื่อในศักยภาพและฝีมือของนักวิจัยไทย หากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมในทุกมิติจะสามารถสร้างผลงานอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้อย่างแน่นอน