X
“วัว” ความเชื่อและศรัทธา สัญลักษณ์ของความสมบูรณ์

“วัว” ความเชื่อและศรัทธา สัญลักษณ์ของความสมบูรณ์

8 พ.ค. 2568
120 views
ขนาดตัวอักษร

2 พ.ค.68 – “วัว” ไม่เพียงเป็นสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์เศรษฐกิจ แต่ในบางสถานที่ หรือบางเหตุการณ์สำคัญ “วัว” เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของความเชื่อ และศรัทธา โดยเชื่อกันว่าสัตว์ชนิดนี้ “เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์”


“วัว” มุมหนึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีประโยชน์อย่างมาก สามารถนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งอุปโภคบริโภค ส่วนอีกมุมหนึ่ง “วัว” เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อความศรัทธา ด้วยเช่นกัน ซึ่งความเชื่อเหล่านี้มีรากมาจากอดีต ที่ส่งและสานต่อมาถึงปัจจุบัน แล้วทำไม “วัว” ถึงมีความสำคัญมากเช่นนี้ได้

ย้อนกลับไปในสมัยพระเวท 4,000 ปีก่อน เป็นสัตว์สำคัญในวัฒนธรรมของชาวอารยัน เพราะวัวเป็นสัตว์ที่ให้น้ำนมและใช้งานที่หลากหลาย เลี้ยงดูชีวิตของชาวอารยันมาทุกยุคสมัย โดยในคัมภีร์ฤคเวท กล่าวไว้ว่า “โคนำความโชคดีมายังพวกเรา และยังให้นมกับพระอินทร์ทุกวัน นำความปิติมาให้กับชาวนา” ส่วนในคัมภีร์พระเวท วัวได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมารดา 7 ประเภท ที่ชาวฮินดูให้ความเคารพ คือ อะทิมาตา มารดาผู้ให้กำเนิด , คุรุ ปัตนี ภรรยาของอาจารย์ , พราหมณี ภรรยาของพราหมณ์ผู้ทำหน้าที่ประกอบพิธีกรรม , ราชา ปะทริกา มเหสีของพระราชาคือพระราชินี , เธนุ วัว , ธาตรี นางพยาบาล และ ตะถา ปะฐะวี แม่พระธรณี

นอกจากนี้ตามคติของศาสนาพราหมณ์ ตำนานกล่าวว่า โคอุสุภราช (เผือกผู้) มีนามว่า พระนนทิ ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสัตว์จัตุบาท พระนนทิจะแปลงรูปเป็นโคให้พระอิศวรทรง ซึ่งจากความเชื่อนี้คนอินเดียจึงไม่ทานเนื้อวัว จึงมี “วัว” เยอะมากในประเทศอินเดีย

“วัว” ยังมีบทบาทอย่างมาในความเชื่อของฮินดู เชื่อว่า “วัว” เป็นสัญลักษณ์ของดินและโลกและเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ เห็นได้จากความเชื่อในรูปลักษณ์ของ “พระแม่ปฤถิวี” หรือเทพีแห่งผืนแผ่นดิน เชื่อว่ามีรูปลักษณ์เป็นแม่โค ชาวฮินดูจึงถือว่า “วัว” เป็นสัญลักษณ์แทนชีวิตและการดำรงอยู่ของชีวิต เคารพเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถทำนายความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมืองได้ ส่วนในคัมภีร์อัคนิปุราณะ กล่าวไว้ว่า วัวเป็นสัตว์บริสุทธิ์ เป็นสัตว์มงคล การเลี้ยงวัวต้องดูแลเอาใจใส่อย่างดี การให้วัวกินหญ้าให้ดื่มน้ำอาบน้ำให้วัว เป็นกิจที่ควรสรรเสริญยกย่อง ผู้ที่ให้อาหารแก่วัวแค่คำเดียวก่อนจะกินข้าวเอง จะเข้าถึงสุคติสวรรค์ อีกทั้งผู้ที่บริจาควัวเป็นทานจะได้บุญทั้งครอบครัว ที่แห่งใดมีวัวอาศัยอยู่ ที่แห่งนั้นถือว่าบริสุทธิ์ การได้สัมผัสและดูแลวัวถือว่าได้ชำระบาปและนี่ก็เป็นที่มาของการเลือกใช้ “วัว” เป็นส่วนหนึ่งของการทำนายในพระราชพิธีที่สำคัญของไทย “พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ” อีกด้วย


“พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ” หรือวันพืชมงคล ของประเทศไทย ได้รับอิทธิพลมาจากพิธีพราหมณ์ของประเทศอินเดีย ซึ่งชาวฮินดูถือว่า “วัว” เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเป็นพาหนะของพระศิวะ ชาวอินดูยังเชื่อว่า “ขี้วัว” ถือเป็นเครื่องชำระล้างให้จิตใจ ชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ และเป็นมงคล ซึ่งพระโคในทางศาสนาพรามหณ์ หมายถึง เทวดาผู้ทำหน้าที่เป็นพาหนะของ พระอิศวร ซึ่งเปรียบได้กับการใช้แรงงานและความเข้มแข็ง และเป็นสัตว์เลี้ยงที่พระกฤษณะและพระพลเทพดูแล ซึ่งเปรียบได้กับความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ในการประกอบพระราชพิธี จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จึงได้กำหนดให้ใช้พระโคเพศผู้เข้าร่วมพระราชพิธีเสมอมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นตัวแทนของความเข้มแข็งและความอุดมสมบูรณ์


โดยพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะคัดเลือกพระโค เพื่อใช้ในพระราชพิธีฯ การคัดเลือกโคเพื่อเป็นพระโคตามหลักเกณฑ์จะต้องเป็นโคที่มีลักษณะดี รูปร่างสมบูรณ์ มีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ความยาวลำตัวไม่น้อยกว่า 120 เซนติเมตร ความสมบูรณ์รอบอกไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร โคทั้งคู่จะต้องมีสีเดียวกัน ผิวสวย ขนเป็นมัน กิริยามารยาทเรียบร้อย ฝึกง่าย สอนง่ายไม่ดุร้าย เขาลักษณะโค้งสวยงามเท่ากัน ตาแจ่มใส หูไม่มีตำหนิ หางยาวสวยงามดี มีขวัญหน้า ขวัญทัดดอกไม้ซ้ายขวา และขวัญหลังถูกต้อง มีขาและกีบข้อเท้าแข็งแรง มองดูด้านข้างลำตัวจะเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งในปี 2568 กรมปศุสัตว์ได้ทำการคัดเลือกพระโคเพื่อใช้ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จำนวน 2 คู่ คือ พระโคแรกนาขวัญ 1 คู่ ได้แก่ พระโคพอ พระโคเพียง , พระโคสำรอง 1 คู่ ได้แก่ พระโคเพิ่ม พระโคพูล

ทำไม “พระโค” ที่เลือกต้องเป็น “โคขาวลำพูน” กระทรวงเกษตรฯ บอกไว้ว่า “โคขาวลำพูน” เป็นโคพื้นเมืองที่เกิดจากฝีมือและผลงานของชาวบ้านในจังหวัดลำพูน มีการพัฒนาสายพันธุ์มานานกว่า 100 ปี บางท่านเล่าว่า เกิดจากการกลายพันธุ์ของโคพื้นเมืองในสมัยพระนางจามเทวี ผู้ครองนครหริภุญไชยพระองค์แรก เมื่อ 1,340 ปีก่อน และเป็นสัตว์คู่บารมีของชนชั้นปกครอง โดยนิยมเลี้ยงมากในจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ก่อนแพร่กระจายไปยังจังหวัดลำปาง พะเยา และเชียงราย มีลักษณะที่โดดเด่นคือมีรูปร่างสูงใหญ่ สูงโปร่ง ลำตัวมีสีขาวตลอด พู่หางขาว หนังสีชมพูส้ม จมูกสีชมพูส้ม เนื้อเขาเนื้อกีบสีน้ำตาลส้ม จากลักษณะเด่นเป็นสง่าดังกล่าว จึงได้ถูกคัดเลือกให้เป็นพระโคในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 

• 

ในตำนานกวนเกษียรสมุทร ก็มี “วัวหรือโค” เข้าไปเกี่ยวข้อง ชื่อว่า โคกามเธนุ แม่โคสำคัญที่สุดในตำนานปกรณัมฮินดูมีชื่อว่า กามเธนุ หรือ สุรภี การกำเนิดของโคกามเธนุ มาจากตำนานการกวนเกษียรสมุทร ที่ทำให้เกิดของวิเศษผุดขึ้นมาหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ แม่โควิเศษชื่อว่ากามเธนุหรือสุรภี แม่โคสารพัดนึกที่สามารถให้ผลผลิตได้ไม่หมดสิ้น และพระพรหมได้มอบโคนี้ให้แก่เหล่าฤษี เพื่อใช้นมทำน้ำมันเนย (ฆี) มาประกอบพิธีบูชาไฟ นั้นเอง

• 

ในตำนาน พระศิวะ พระกฤษณะ ก็มีวัว เป็นส่วนเกี่ยวข้องที่สำคัญ ชื่อว่า “นนทิ” เป็นวัวตัวผู้ มีสีขาว เป็นพาหนะของพระศิวะ หรือพระอิศวร เทพสูงสุดในศาสนาฮินดู เราจะเห็นได้ว่าเทวรูปของพระศิวะมักจะมีวัวสีขาวเคียงข้างเสมอ เทพอีกองค์หนึ่งที่ผูกพันกับวัวคือ พระกฤษณะ ด้วยสมัยที่พระองค์เป็นวัยรุ่นเคยเลี้ยงวัวและใช้ชีวิตกลางฝูงวัว จึงมีพระนามว่า โควินทะ แปลว่า เป็นที่ชื่นชมของวัว และ โคปาละ แปลว่า ผู้ดูแลวัว

ขอบคุณที่มา :
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เว็บไซต์วิทยุจุฬา

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)