“โบสถ์หัวโดมริมเจ้าพระยา ที่เกิดจากพระราชทานที่ดินของสมเด็จพระเจ้าตากสิน”
หากพูดถึง “วัดซางตาครู้ส” หรือที่คนรู้จักกันในชื่อ โบสถ์กุฎีจีน ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตธนบุรี นี่คือหนึ่งในสัญลักษณ์ความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยกับโปรตุเกส และยังเป็นศูนย์กลางความศรัทธาของคริสตชนที่ยืนหยัดมากว่า สองศตวรรษครึ่ง
ตำนานการก่อสร้างจากพระราชทานของกษัตริย์
ย้อนไปสมัยกรุงธนบุรี หลังจากกู้เอกราชจากพม่าได้สำเร็จ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงพระราชทานที่ดินบริเวณริมแม่น้ำให้แก่ชาวโปรตุเกสผู้มีบทบาทในศึกครั้งนั้น นักบวชจึงได้สร้างโบสถ์ไม้ขึ้นในปี พ.ศ. 2313 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวัดซางตาครู้ส
แต่ชุมชนกุฎีจีนต้องเผชิญชะตากรรมครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2376 เมื่อเพลิงไหม้เผาผลาญวัดทั้งหลังจนพังสิ้น จึงถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยอิฐถือปูน และเมื่อกาลเวลาผ่านไปจนโบสถ์ชำรุดทรุดโทรมอีกครั้ง ได้มีการสร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้นในปี พ.ศ. 2459 ภายใต้การควบคุมของคุณพ่อกูเลียลโม กิ๊น ดา ครู้ส ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6
โดมอิตาลีริมเจ้าพระยา
วัดซางตาครู้สในปัจจุบันอายุกว่า 108 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูศิลปวิทยาและฟื้นฟูคลาสสิก มี โดมทรงอิตาลี สูงตระหง่าน คล้ายโดมมหาวิหารฟลอเรนซ์ หรือพระที่นั่งอนันตสมาคม ภายในเป็นอาคารชั้นเดียว ใช้เสาลอยรับน้ำหนักหลังคาโค้ง และประดับ กระจกสี เล่าเรื่องราวพระคัมภีร์อย่างวิจิตร
ศาลาซางตาครู้ส “วิกตอเรียริมสายน้ำ”
ไม่เพียงโบสถ์ใหญ่เท่านั้น บริเวณวัดยังมี ศาลาซางตาครู้ส สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2453 ในสถาปัตยกรรมวิกตอเรียแบบ “ขนมปังขิง” งดงามด้วยจตุรมุขทั้งสี่ ทว่าในปี พ.ศ. 2558 เคยเกิดอุบัติเหตุเครื่องเครนก่อสร้างทางเลียบแม่น้ำพุ่งชนจนเสียหายหนัก กลายเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวัดแห่งนี้
มรดกศรัทธาคู่ชุมชนกุฎีจีน
วันนี้ (14 กันยายน 2568) ครบรอง 109 ปีของโบสถ์ และ 256 ปี แห่งชุมชนศรัทธา วัดซางตาครู้ส แห่งกุฎีจีน วัดซางตาครู้สไม่เพียงเป็นโบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ แต่ยังเป็น สัญลักษณ์แห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม ของไทย สะท้อนการอยู่ร่วมกันของไทย จีน โปรตุเกส และคริสตชนในชุมชนกุฎีจีนที่ยังคงมีชีวิตชีวา