รู้หรือไม่? เจ้าฮิปโปโปเตมัส เหงื่อของฮิปโปเป็นของเหลวสีแดง คล้ายสีของเลือด แต่สีแดงที่เห็นไม่ได้มาจากเลือด แล้วมันคืออะไร? ไปหาคำตอบกัน
ฮิปโปโปเตมัส (Hippopotamus) เป็นสัตว์กินพืชขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในน้ำ มีผิวหนังหนา เต็มไปด้วยขนเส้นเล็ก กระจายอยู่ห่าง ๆ ปกคลุมทั่วทั้งตัว ขนเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากแสงแดดแต่ทำหน้าที่เป็นอวัยวะรับสัมผัสที่ไวต่อความแห้ง และแสงแดด
เหงื่อของฮิปโปเป็นของเหลวสีแดง คล้ายสีของเลือด
แม้ว่าเหงื่อของฮิปโปจะเป็นสีแดงคล้ายสีเลือด แต่สีแดงที่เห็นไม่ได้มาจากเลือด! เป็นเพียงกลไกอย่างหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวของฮิปโปไม่ให้แห้งและถูกเผาจากแสงแดด ทั้งยังช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายของตัวฮิปโป โดยเริ่มแรกเหงื่อของฮิปโปไม่มีสี แต่ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากหลั่งเหงื่อออกมา เหงื่อจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นโมเลกุลของเม็ดสีหลายโมเลกุลจะมารวมเข้าด้วยกัน (Pigment polymerizes) ทำให้เหงื่อเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลในที่สุด
เมื่อปี พ.ศ. 2547 นักวิทยาศาสตร์พบว่า แท้ที่จริงแล้วเหงื่อสีแดงของฮิปโปไม่ใช่เหงื่อ แต่เป็นสารประกอบอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนที่ไม่มีวงเบนซีน (Non-benzenoid aromatic) 2 ชนิด โดยชนิดแรกเป็นสารสีแดง เรียกว่า กรดฮิปโปซูโดริก (Hipposudoric acid) และชนิดที่สอง เป็นสารสีส้ม เรียกว่า กรดนอร์ฮิปโปซูโดริก (Norhipposudoric acid) เคลือบอยู่บนผิวหนัง ที่ไม่เพียงทำหน้าที่ป้องกันแสงแดด แต่ยังทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค รวมถึงบาดแผลของฮิปโปไม่ให้เกิดการติดเชื้อจนเกิดอันตรายถึงชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก : องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ