4 ธ.ค. 67 - สวีเดนนำร่อง พัฒนาถนนวิ่งไปชาร์จไป สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า คาดเริ่มใช้งานปี 2568
ในขณะที่สหภาพยุโรปผ่านกฎหมายสำคัญ เพื่อกำหนดให้รถยนต์ใหม่ทั้งหมดที่ขายต้องมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ตั้งแต่ปี
2578 ประเทศต่าง ๆ
ในยุโรปกำลังเร่งรีบในการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเดินทางโดยปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
สวีเดนเป็นประเทศแรก ๆ ที่ขยับอย่างจริงจัง โดยสวีเดนกำลังเปลี่ยนทางหลวงให้เป็นถนนอัจฉริยะที่สามารถชาร์จไฟรถไฟฟ้าได้ ซึ่งถือเป็นถนนสายแรกในโลก บนถนนอัจฉริยะรถยนต์และรถบรรทุกสามารถชาร์จไฟได้ในขณะขับขี่ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการชาร์จแบบไดนามิกช่วยให้เดินทางได้ไกลขึ้นพร้อมชาร์จไฟไปได้ และที่สำคัญหลีกเลี่ยงการรอที่สถานีชาร์จแบบที่บางประเทศกำลังมีประเด็นกัน
ประเทศสแกนดิเนเวียได้บุกเบิกถนนชาร์จไฟฟ้าผ่านโครงการนำร่องหลายโครงการ
รวมถึงถนนชาร์จไฟฟ้าชั่วคราวเส้นแรกของโลก มอเตอร์เวย์ที่เลือกเส้นทางยุโรป
E20 เชื่อมต่อศูนย์กลางการขนส่งระหว่าง Hallsberg
และ Örebro ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่สามเมืองของประเทศ
ได้แก่ สตอกโฮล์ม โกเธนเบิร์ก และมัลโม
ขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างและมีแผนที่จะสร้างขึ้นภายในปี
2568 วิธีการชาร์จสำหรับ
E20 ยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่มีการชาร์จสามประเภท:
ระบบโซ่ ระบบนำไฟฟ้า (แบบภาคพื้นดิน) และระบบแม่เหล็ก
ระบบโซ่ใช้สายไฟเหนือศีรษะเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับรถบัสหรือรถรางชนิดพิเศษ ดังนั้นจึงใช้ได้กับยานพาหนะที่ใช้งานหนักเท่านั้นในทางกลับกัน การชาร์จแบบนำไฟฟ้าใช้ได้กับทั้งรถยนต์ที่ใช้งานหนักและรถยนต์ส่วนตัว ตราบใดที่มีระบบนำไฟฟ้า เช่น รางรถไฟ ยานพาหนะจะถูกชาร์จผ่านแท่งที่สัมผัสกับราง
ในปี 2018 Trafikverket ได้เปิดตัวรางชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของโลกบนถนนสาธารณะ
โดยเป็นโครงการนำร่องระหว่างสนามบิน Arlanda ในสตอกโฮล์มกับพื้นที่โลจิสติกส์ใน
Rosersberg ระบบการชาร์จแบบเหนี่ยวนำใช้อุปกรณ์พิเศษฝังอยู่ใต้ถนนเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังขดลวดในรถยนต์ไฟฟ้า
ขดลวดในรถยนต์จะใช้ไฟฟ้านั้นเพื่อชาร์จแบตเตอรี่
ในปี 2020 Trafikverket ได้สร้างถนนไฟฟ้าไร้สายสำหรับรถบรรทุกหนักและรถโดยสารในเมืองวิสบีซึ่งเป็นเกาะ ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนคนขับทั่วโลก บริษัทสัญชาติสวีเดนแห่งนี้ตั้งเป้าที่จะนำรถบรรทุกไร้คนขับไปใช้บนท้องถนน
โครงการนี้ถูกตั้งชื่อว่า Electric road
system (ERS) กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมอย่างถนน
ให้มีคุณสมบัติเมื่อรถยนต์หรือรถบรรทุกไฟฟ้าขับหรือแล่นผ่านถนนสายนี้
จะสามารถเติมพลังงานเข้าสู่ตัวรถได้โดยอัตโนมัติ
เพิ่มศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าระบบถนนไฟฟ้า (ERS) ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่รถบรรทุก
แต่การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ให้เห็นว่ารถยนต์ส่วนตัวก็อาจได้รับประโยชน์เช่นกัน จากการประเมินของรัฐบาลสวีเดนคาดว่า
หากการพัฒนาถนนอัจฉริยะประสบความสำเร็จ
จะช่วยลดการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะลงได้มากกว่า 1.2 ล้านตัน/ปี
ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งจะช่วยลดอัตราการปล่อยคาร์บอนลงได้อีกทาง
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net zero ภายในปี 2050 ตามที่ตั้งใจ
นอกจากช่วยผลักดันและจูงใจผู้คนเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปมาสู่รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
อีกหนึ่งข้อเท็จจริงประการสำคัญคือ
เมื่อการจัดสร้างถนนอัจฉริยะเส้นนี้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
จะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปลดขนาดความจุแบตเตอรี่ลงไปกว่า 70%
ไม่จำเป็นต้องทำความจุมหาศาลด้วยถนนที่วิ่งผ่านเป็นแหล่งพลังงานไปในตัว
จึงสามารถลดขนาดและอัตราเสื่อมถอยแบตเตอรี่ต้นทุนหลักของรถยนต์ไฟฟ้า
อีกทั้งลดวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตซึ่งจะช่วยสิ่งแวดล้อมได้อีกทาง
ด้วยแผนที่จะขยายถนนไฟฟ้าอีก 3,000
กม. ภายในปี 2588 สวีเดนได้ร่วมมือกับเยอรมนีและฝรั่งเศสเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านหน่วยงานและความร่วมมือด้านการวิจัยเกี่ยวกับถนนไฟฟ้า
เยอรมนีและสวีเดนมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการสาธิตบนถนนสาธารณะมาหลายปีแล้ว
และฝรั่งเศสวางแผนที่จะจัดสร้างเช่นกัน
เรียบเรียงจาก Sweden is building the world's first permanent electrified road for EVs to charge while driving