X
จากขยะใต้ทะเล... สู่

จากขยะใต้ทะเล... สู่ "หม้อนอน" เพื่อชีวิต Upcycling for life

7 ส.ค. 2568
110 views
ขนาดตัวอักษร

จากขยะใต้ทะเล... สู่ "หม้อนอน" เพื่อชีวิต

Upcycling for life

พระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา 


"ขยะทะเล" กลายเป็นวิกฤตสิ่งแวดล้อมไม่เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นระดับโลก เป็นปัญหามลพิษทางทะเลที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล

และชายฝั่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เช่น สัตว์ทะเลหลายชนิดจะกินขยะพลาสติกที่ทิ้งลงในทะเลโดยเข้าใจผิดคิดว่า

เป็นอาหาร ขยะดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร และทำให้สัตว์ขาดอาหารอาจถึงตายในที่สุด นอกจากนี้ขยะพลาสติกยังทำให้สัตว์ เช่น เต่าทะเลบาดเจ็บ

ด้วยการติดอวนเกิดการติดเชื้อและตาย  การตายของปะการังเพราะมีเศษซากอวนจำนวนมากปกคลุมแนวปะการัง เป็นต้น


ประเทศไทยมีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกันก็ขาดการดูแลเอาใจใส่ไม่รักษาให้ดี ทำให้ระบบนิเวศและทรัพยากรเกิดความสูญเสีย อาหารและสัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลง  ขยะทะเลที่พบมากที่สุดจะเป็นถุงพลาสติก ถุงหูหิ้ว และถุงอื่น ๆ  ภาชนะบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม เศษเชือก แห อวน จากการประมง  ตัวเลขของดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อํานวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย คาดกันว่าทุก ๆ ปี จะมีขยะจากฝั่งหลุดรอดลงสู่ทะเลราว 30,000-50,000 ต้น ข้อมูลขยะทะเลล่าสุดปี 2567 พบว่าขยะที่ตกค้างในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทพลาสติก คิดเป็นร้อยละ 88 ของขยะทะเลที่พบทั้งหมด โดยเฉพาะขยะพลาสติกบนเกาะทำให้ขยะพลาสติกยังคงหลุดลอด

ลงสู่ทะเลและมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 


สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเล็งเห็นว่า "ขยะ" ไม่ควรจบเพียงการเก็บกวาดเท่านั้น หากควรนำไปผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ใหม่ (Upcycling) เพื่อเพิ่มมูลค่าและประโยชน์ใช้สอย รวมถึงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม ประกอบกับทรงห่วงใยปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรมขอทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเลไทย การทำร้ายสัตว์ทะเลด้วยน้ำมือมนุษย์ทั้งตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งยังทรงมีเจตนารมย์ในการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย  ดังนั้น ภายใต้แนวคิดนี้ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ จึงทรงมีพระดำริให้  มูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ริเริ่มโครงการ  Upcycling for Life โดยการเก็บรวบรวมขยะเศษซากแห อวน ขวดพลาสติก ฯลฯ จากท้องทะเลเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการคัดแยก ฆ่าเชื้อและรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติก

เพื่อผลิตเป็น "หม้อนอน" (Bedpan)อุปกรณ์สาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ หนึ่งในผลิตภัณฑ์จากโครงการของมูลนิธิฯ แจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาล สถานพยาบาล 

และเครือข่ายสาธารณสุขทั่วประเทศ


แรกเริ่มความเป็นมาของโครงการ รองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ประธานฝ่ายวิชาการและส่งเสริม มูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ  เล่าว่าเริ่มโครงการมาตั้งแต่ต้นปี 2567 ทำมาได้ประมาณปีเศษแล้ว  ด้วยความที่เป็นหมอจึงมีแนวคิดว่าขยะที่เก็บมาจากทะเลแทนที่จะนำมาอัพไซคลิ่ง (Upcycling)เป็นเครื่องประดับ โต๊ะ เก้าอี้ ต่างๆ น่าจะนำมาทำเป็นเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพราะเครื่องมือแพทย์หลายอย่างใช้พลาสติกทำอยู่แล้ว เมื่อมีการหารือกันหลายฝ่ายทั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ จึงออกมาเป็นโครงการใช้ชื่อว่า "อัพไซคลิ่ง ฟอร์ ไลฟ์"  (pcycling for Life) ซึ่งไม่ได้เป็นอัพไซคลิ่งอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงช่วยชีวิตสัตว์และสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลและสิ่งแวดล้อมด้วย ตามคอนเซ็ปต์ "วัน เฮลท์" (One Health)แนวคิดสุขภาพเป็นหนึ่งเดียว

ไม่ว่าเป็นคน สัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า พืช และสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั่วโลกกำลังใช้กันอยู่ 


จากคอนเซ็ปต์ดังกล่าวนำมาสู่การหารือว่าจะทำอะไรก่อนดี สุดท้ายสรุปตกลงที่อัพไซคลิ่งเป็น "หม้อนอน" หรือกระโถน ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยติดเตียงหรือกระทั่งคนพิการ รวมทั้งคนแก่ที่อยู่บ้าน โดยอาจารย์สิงห์ อินทรชูโต คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รับหน้าที่ออกแบบและทดสอบใช้กับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลกลางกรุงเทพมหานคร ก่อนจะสำเร็จออกมาเป็นรูปร่างและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  


สำหรับ"หม้อนอน" ของมูลนิธิฯ ในพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ  ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับสรีระผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง มีน้ำหนักเบา ลดแรงกดทับ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมีรูปแบบและสีสันสวยงาม สามารถตอบสนองการใช้งานในชุมชนและสถานพยาบาลได้ประโยชน์สูงสุด 


"การผลิตหม้อนอน 1 อัน ใช้ขยะประมาณ 400 กรัม หรือ 0.4 กก. ทำจากพลาสติกคุณภาพดีมาก มีความละเอียด โดยบริษัทดับเบิ้ลล็อคเป็นผู้ผลิต หม้อนนอนนี้สามารถรองรับน้ำหนักของผู้ป่วยที่มีน้ำหนักได้ถึง 130 กิโลกรัม มีความจุถึง 2 ลิตร ออกแบบให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ คือทั้งพยาบาลและผู้ป่วยที่ใช้จริง มีฝาปิดเรียบร้อยเพื่อความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อ และมีมือจับให้ใช้ได้อย่างสะดวก"ดร.นันทริกาอธิบายรายละเอียด


ในการแจกจ่ายจะเน้นให้กับกลุ่มโรงพยาบาลก่อน ตลอดจนกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม)  และทีมดูแลผู้ป่วยที่บ้าน สำหรับปีนี้(2568) ตั้งเป้าผลิตหม้อนอนไว้ 3,000 อัน โดยล็อตแรกจำนวนประมาณ 1,000 อัน กำหนดแจกในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่  ลำปาง  ลำพูน นครราชสีมา และที่พัทยา จังหวัดชลบุรี


ดร.นันทริกากล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 14 สิงหาคม 2568 จะมีการประชุมใหญ่ของมูลนิธิฯ ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นประธาน มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนจากจังหวัด และสภากาชาดไทย ในงานเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ จะพระราชทานหม้อนอนดังกล่าวด้วย


"ที่สำคัญคือจะขอรับบริจาคสำหรับผู้ที่อยากทำบุญร่วมกับมูลนิธิฯ เพราะหม้อนอนมีค่าขึ้นแบบประมาณ 200 บาทต่อหนึ่งชิ้น หากท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยพิการ ร่วมกับมูลนิธิฯ

ยินดีรับบริจาค"


ในวันที่โลกกำลังมองหาวิธีอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน โครงการเล็กๆ ที่เริ่มต้นจากความห่วงใยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา กำลังกลายเป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่ของ

การพัฒนาที่ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง  ไม่ว่าจะเป็นคน สิ่งมีชีวิตในทะเล หรือสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ

Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)