ย่านการค้าเก่าแกอย่างสำเพ็ง เป็นถิ่นที่อยู่อาศัย เป็นที่ทำมาหากินของชาวจีนมาช้านาน ตั้งแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ คนจีนถูกย้ายมาอยู่ใน สำเพ็ง ตั้งหลักปักฐาน ดำเนินชีวิตแสวงหาความสำเร็จในพื้นที่แห่งนี้ เมื่อมี”คนใหม่”เดินทางจากบ้านเกิดมาสมทบก็มาร่วมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ย่านการค้าสำเพ็งเติบโต เต็มไปด้วยร้านขายสินค้านำเข้า ผ้าแพรพัน อาหาร ทองคำเครื่องประดับ สำเพ็ง เยาวราช เต็มไปด้วยเรื่องราวสนุกสนานและสีสันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สำเพ็ง ก็เหมือนย่านเก่าทั่วไป เพราะไม่ได้มีแต่ความสำเร็จรุ่งเรืองแต่มีด้านมืด ความทุกข์ และความลึกลับแอบซ่อนอยู่
“คนทั่วไปจะคิดว่าคนจีนมาเมืองไทยแล้วต้องประสบความสำเร็จร่ำรวยทุกคนทความจริงไม่ใช่อย่างนั้น คนจีนก็เหมือนคนทั่วไป มีที่ประสบความสำเร็จ มีที่ผิดหวังล้มเหลว ที่ตรอกนี่เป็นที่ยืนยันว่ามีคนผิดหวัง ล้มเหลว หาทางออกไม่ได้จึงเลือกที่จะมาที่นี่เพื่อจบชีวิตตัวเอง จึงมีคนเรียกที่นี่ว่า ตรอกผูกคอตาย ”สมชัย กวางทองพาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชุมชนสำเพ็ง-เยาวราช
ซอยแยกเล็กหนึ่งในถนนเยาวพานิชย์ เมื่อเดินเข้าซอยนั้นมาจนพอสมควร จะมีซอก ต้องเรียกว่าซอกเพราะเล็กกว่าซอย มองเข้าไปเห็นต้นโพธิ์อยู่ในซอย ที่นี่คือ ตำนานขนลุก ที่นี่เป็นที่คนซึ่งผิดหวังในชีวิตมาฝากร่างไว้ ผู้คนเรียกซอยนี้ว่า ตรอกผูกคอตาย ตรอกแห่งนี้สมัยก่อนเงียบสงัด มีต้นโพธิ์ขึ้นอยู่ใกล้กันสองต้น ที่บริเวณนี้เป็นจุดสุดท้ายที่คนมาผูกคอตาย ทิ้งร่างและความเจ็บปวดผิดหวังไว้เบื้องหลัง ไม่มีใครรวบรวมเอาไว้ว่าเคยมีคนมาจบชีวิตที่ตรอกนี้กี่ราย ว่ากันว่าคนจีนเมื่อเสียชีวิตและทำพิธีศพแล้วญาติจะนำโคมสีแดงกลับมาที่บ้าน สำหรับตรอกผูกคอตายนั้นเป็นที่ฝากร่างของคนจีนที่ผิดหวังจากการมาเผชิญโชคในแผ่นดินไทย จึงเลือกจบชีวิตให้พ้นความทุกข์ บางคนไม่มีญาติ เมื่อทำพิธีศพแล้วจึงมีคนเอาโคมแดงมาแขวนไว้ที่ต้นโพธิ์นี้แทน บางรายมีแต่ญาติไม่กล้าเอาโคมกลับบ้าน จึงมีโคมเคยแขวนในซอยนี้เต็มไปหมด สมัยก่อนถ้าเป็นช่วงเย็นค่ำโพล้เพล้จะไม่มีใครกล้าเดินผ่านตรอกนี้ เพราะบรรยากาศและเหตุการณ์ในตรอกนี้ชวนให้ขนหัวลุก เวลาผ่านไป การผูกคอตายหมดไป พร้อมกับโคมแดงที่ลดจำนวนและหายไปในที่สุด
ปัจจุบันตรอกผูกคอตายกลายเป็นช่องทางสัญจรที่ผู้คนผ่านไปมา ตำนานเล่าขานของตรอกผูกคอตายเป็นสถานที่หนึ่งที่บอกเราว่า การข้ามน้ำข้ามทะเลมาเผชิญโชคที่เมืองไทยไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ธรรมดาของการเผชิญโชคอาจต้องเผชิญทั้งโชคดีและโชคร้าย การเลือกที่จะจากไปนั้นเจ็บปวดและน่าเศร้า เมื่อออกเดินศึกษาชุมชนจีนแถบนี้พบว่าตรอกที่มีคนไปผูกคอตายมีอีกหลายจุด แต่ละที่มีความคล้ายกันคือเป็นทางเดินเล็กๆ เงียบและไม่มีผู้คนเดินผ่าน
ผู้เฒ่าผู้แก่เล่ากันว่าดวงวิญญาณที่จากไปด้วยความผิดหวังนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าและน่าสงสาร แล้วให้ข้อคิดว่า คนเราแม้เผชิญมรสุมในชีวิตก็อย่ายอมแพ้ง่ายๆวันหนึ่งจะผ่านมรสุมไปได้หากพากเพียรก็จะลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคง