รู้หรือไม่ ที่ดิน ส.ป.ก. (เอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) หรือ ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ไม่สามารถซื้อขายได้ และผู้ซื้อไม่อาจเรียกคืนเงินที่ชำระไปได้ ใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ (รู้จักที่ดิน ส.ป.ก. อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย https://www.mcot.net/view/3JMtcO3V )
ที่ดิน ส.ป.ก. ห้ามซื้อขาย!
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 กำหนดว่า
“ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”
กล่าวคือ ที่ดิน ส.ป.ก. นั้นเป็นที่ดินที่จะได้รับสิทธิเพื่อการเกษตรกรรม จะไม่สามารถซื้อขาย หรือโอนสิทธิให้ผู้อื่นได้ ยกเว้น เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม ได้แก่
- สามีภรรยา
- บุตร
- บิดามารดา
- พี่น้องร่วมบิดามารดา
- พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดา
- หลาน
ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ.2535
ข้อ 7 กำหนดว่า “เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถและไม่นำที่ดินนั้น ทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใด ๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น …”
ข้อ 8 กำหนดว่า “หากเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรกระทำการฝ่าฝืน ข้อ 7 ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีหนังสือเตือนให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรละเว้นการกระทำหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง หรือทำให้ที่ดินกลับสู่สภาพเดิมภายในระยะเวลาที่กำหนด ถ้าผู้นั้นยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามโดยไม่มีเหตุอันสมควรก็ให้ดำเนินการตามข้อ 11 ต่อไป
ในกรณีที่เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรได้โอนการทำประโยชน์ในที่ดินไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนไปยังบุคคลอื่นหรือกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกรณีหนึ่งกรณีใดในข้อ 7 และไม่สามารถหาตัวได้พบให้ดำเนินการตามข้อ 11 ได้โดยมิต้องมีการเตือน”
ข้อ 11 กำหนดว่า “เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับมอบจาก ส.ป.ก. ในกรณี ดังต่อไปนี้
(4) ไม่ปฏิบัติตามความในข้อ 7 และไม่ปฏิบัติตามคำเตือนในข้อ 8 การสิ้นสิทธิตามวรรคหนึ่ง (1) และ (2) ย่อมมีผลในทันทีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น…”
เกร็ดน่ารู้
- หากผู้ได้รับประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. นำที่ดินออกขาย ให้เช่า หรือยกที่ดินให้บุคคลอื่นเข้าทำประโยชน์ หรือมีพฤติกรรมใด ๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น จะทำให้ผู้ได้รับประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. เสียสิทธิทำกินในที่ดินและต้องออกจากที่ดินนั้น หากไม่ยอมออกจะถือเป็นการเข้าไปในที่ดินของผู้อื่น และมีความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
- กรณีทำสัญญาซื้อขายหรือสัญญาเช่าที่ดิน ส.ป.ก. จะถือเป็นการทำนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย การซื้อขายหรือการเช่าตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ซื้อที่ดิน ส.ป.ก. จะไม่ได้รับสิทธิใด ๆ ในการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว
- หากผู้ซื้อที่ดินชำระเงินค่าที่ดิน ส.ป.ก. ทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ดินต้องห้ามไม่ให้ซื้อขายเปลี่ยนมือ ถือเป็นการกระทำเพื่อชำระหนี้เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมาย ตามมาตรา 411 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้นผู้ซื้อจะไม่สามารถเรียกเงินที่ชำระไปคืนมาได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
- พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
- ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ.2535