ถ.พระรามที่ 4: ถนนตรง ที่เริ่มจากฝรั่ง…แต่ฝรั่งไม่เอา!
ใครจะไปเชื่อว่า ถนนที่เราขับรถติดกันทุกวัน จะมีที่มาจาก “ฝรั่งบ่น” ในยุครัชกาลที่ 4! ย้อนไปเมื่อ ปี พ.ศ. 2400พ่อค้าอังกฤษ สหรัฐ และฝรั่งเศสบ่นกับรัฐบาลสยามว่า “เดินเรือขึ้นพระนครยาก น้ำนี่เชี่ยวชะมัด!”
รัชกาลที่ 4 เลยสั่งให้ “ขุดคลองตรง” จากหัวลำโพงไปพระโขนง แล้วเอาดินที่ได้จากการขุดมาถมกลายเป็นถนนสายใหม่ เรียกว่า “ถนนตรง” ตรงแบบไม่อ้อมเลยจริงๆ
ถนนนี้เคยมีคลอง…เคยมีรถไฟ…และเคยชื่อไม่หรูขนาดนี้ คลองที่ขุดเรียกว่า “คลองถนนตรง” แต่คนไทยเรียกกันเองว่า “คลองหัวลำโพง” หรือ “วัวลำพอง” (อย่าถามว่าชื่อมาจากอะไร ถัดจากนั้นมีการสร้าง ทางรถไฟสายปากน้ำ ขนานไปกับถนนและคลอง เป็นหนึ่งในสายรถไฟสายแรกของไทย จนกระทั่ง 16 กุมภาพันธ์ 2462รัชกาลที่ 6 เห็นว่า ร.4 ทรงมีพระบารมีในงานนี้ เลยเปลี่ยนชื่อจากถนนตรงเป็น ถนนพระรามที่สี่ (และปีนี้คือครบ 105 ปีพอดี!)
ถนนรถติด…แต่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กและเรื่องเล่า
ถนนพระรามที่ 4 อาจขึ้นชื่อเรื่อง รถติดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ แต่ในแง่ประวัติศาสตร์และชุมชน มันคือ “ทางเชื่อมอดีตสู่อนาคต” อย่างแท้จริง จุดสำคัญบนถนนพระรามที่ 4 ที่คุณอาจขับผ่านทุกวันแบบไม่ทันสังเกต:หัวลำโพง: จากสถานีรถไฟหลักสู่การอนุรักษ์และรีแบรนด์ย่านให้กลายเป็น creative district
สามย่าน: จากตลาดรุ่นคุณแม่กลายเป็นดินแดนคาเฟ่, จุฬาฯ สมาร์ทซิตี้, และโกโก้ปั่นเจ้าเด็ด
วัดหัวลำโพง: วัดใหญ่ใจกลางเมือง คนแน่นตลอดทั้งปี เพราะไหว้ได้ 24 ชม.
สวนลุมพินี: สวนอายุเกิน 100 ปี ที่กำลังจะรีดีไซน์ให้กลายเป็น “สวนของอนาคต”
ดุสิตธานี: แลนด์มาร์กที่ปิดตัวเพื่อกลับมาในเวอร์ชั่นใหม่พร้อมตึกสูง + ความทรงจำ
คลองเตย: พื้นที่ที่เคยถูกมองว่า “เก่า” กำลังกลายเป็นว่าที่ฮับประชุม นิทรรศการ และการพัฒนาตลาดสมัยใหม่
จากศาลาแดงถึงคลองเตย: พระรามสี่คือ “กรุงเทพฯ ย่อส่วน”
ถ้าอยากเข้าใจกรุงเทพฯ แค่เดิน (หรือนั่ง MRT-BTS ก็ได้) ตามแนวถนนพระรามที่ 4
คุณจะได้เห็นความ “เปลี่ยน” ของเมืองในทุกมิติ:
• จากวัดวา…สู่เวิร์กสเปซ
• จากโกดัง…สู่คอนโดหรู
• จากตลาด…สู่เมืองอัจฉริยะ
• จากศาลาแดงหลังคาแดง…สู่สถานี
Interchange สุดฮอต
พระรามที่ 4 เป็นมากกว่าทางผ่าน มันคือ “เส้นเลือดของเมือง” ที่ทั้งหล่อเลี้ยง และแบกรับทั้งอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตเอาไว้พร้อมกัน
แล้วเราจะอยู่กับพระราม 4 ยังไงต่อไป? ในวันที่
ย่านนี้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ของเมือง…
สิ่งที่ต้องคิดคือ “เราจะสร้างเมืองใหม่โดยไม่ทิ้งรากของเมืองเก่าได้หรือไม่?” บางบ้านอาจรื้อไปแล้ว แต่ภาพถ่ายและเรื่องเล่าควรถูกรวบรวม ศาสนสถานอย่างวัดหัวลำโพง หรือคริสตจักรสะพานเหลือง ควรเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบเมืองใหม่ ชุมชนคลองเตยควรถูกฟังและให้มีพื้นที่แสดงตัวตน ไม่ใช่แค่พื้นที่ในแผนพัฒนา
“ถนนพระรามสี่ไม่ใช่แค่ถนนที่ตรง…แต่มันตรงไปยังอดีตของกรุงเทพฯ” และถ้าเราฟังให้ดี มันกำลังเล่าอนาคตของเมืองนี้ให้เราฟังด้วย“