เผลอแป๊บเดียว 10 ปี ผ่านไป สำหรับการประมูลช่องทีวีดิจิทัล มูลค่าแสนล้านบาท เกิดอะไรขึ้นเยอะแยะมากมาย การดำรงอยู่ เกิดใหม่ เข้ามา ออกไป ล่มสลาย ขายช่อง ฯลฯ ปี 2567 ที่เรายืนอยู่วันนี้ เหลืออีก ไม่กี่ปีจะครบสัญญาจตามใบอนอนุญาจต เราจะเอายังไงกันต่อ ประมูลอีกไหม ใครจะประมูล ไม่ใช่แค่ธุรกิจโทรทัศน์ที่เปลี่ยน ระบบนิเวศทุกวันนี้ก็เปลี่ยนไปหมด สิ่งสำคัญสูงสุด พฤติกรรมผู้บริโภค มีใครเขาดูทีวีกันบ้าง ? ? ? เขาดูสตรีมมิ่งกันหมดแล้ว ในเมืองสตรีมมิ่งมาขนาดนี้ จึงมีคนคิดว่า ถ้าทีวีทุกช่อง เอาคอนเทนท์ขึ้นไปบนสตรีมมิ่งกลาง ที่ทุกคนอยู่ด้วยกันได้ น่าจะดีไหม คิดได้แบบนี้ กสทช. ได้ริเริ่มและเป็นตัวกลาง (facilitate) ในการเปิดเวทีหารือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของต้นแบบแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับชาติ (national streaming platform) ที่จะบูรณาการเนื้อหาจากช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดิน โฆษณา และข้อมูลผู้บริโภคให้อยู่ในระบบเดียวกัน ที่ผ่านมา ได้จัดเวทีหารือร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล สมาคมโฆษณา ผู้ให้บริการในกิจการโทรคมนาคม และผู้ผลิตสมาร์ททีวี และได้เสนอให้มีโครงการต้นแบบศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) ในเรื่องนี้โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและพัฒนาบริการพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม หรือ USO (Universal Service Obligation) ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
การจะตัดสินใจดำเนินการมีความละเอียดอ่อน เพราะมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนของระบบนิเวศสื่อ รวมไปจนถึงผู้ให้บริการในกิจการโทรคมนาคมด้วย อีกทั้งงบประมาณที่จะต้องใช้ก็คงไม่น้อย นอกจากนี้ การเลือกที่จะดำเนินการอย่างไรนั้นควรเป็นความเห็นพ้องกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสร้างผลประโยชน์แก่อุตสาหกรรม และสังคมไทยอย่างคุ้มค่าและเป็นธรรม ระหว่างที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เราลองเอาแนวทางที่สำนักวิศวกรรมและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์ได้เคยพูดคุยหารือกับฝ่ายต่างๆ แล้ว และแนวทางหนึ่งที่ กสทช. กำลังศึกษาอยู่ เพราะกำลังมีการทดลองใช้ในยุโรป จึงพอสรุป เค้าโครง แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับชาติที่ (มีโอกาส) จะเกิดขึ้นดังนี้
ระบบ DVB-I เป็นการรวบรวมและบูรณาการช่องรายการที่ออกอากาศผ่านโครงข่ายในรูปแบบต่างๆ มารวมไว้ในที่เดียวกัน เช่น ผ่านการออกอากาศภาคพื้นดิน (Digital terrestrial television: DTT), ผ่านดาวเทียม, ผ่านสายอากาศ และผ่านทางอินเทอร์เน็ต (ผ่าน HTML) โดยผู้ชมจะได้ประสบการณ์การรับชมเแบบไร้รอยต่อ เช่น ในกรณีที่สายอากาศเสีย ก็สามารถรับชมผ่านอินเทอร์เน็ตได้ แต่การใช้สายอากาศก็ยังคงมีความจำเป็น เพราะบางรายการยังออกอากาศผ่านระบบภาคพื้นดินเท่านั้น ทำให้ต้องเสียบสายอากาศค้างไว้ตลอดเวลาเพื่อรับสัญญาณโทรทัศน์
ข้อดีของระบบนี้คือ สามารถลิสต์ลำดับรายการสำคัญ สามารถรับชมรายการของแต่ละภูมิภาค โดยการส่งสัญญาณภาคพื้นดินจากส่วนภูมิภาค/ท้องถิ่นนั้นๆ 3. รับชมรายการเฉพาะกิจ (part time service) เพราะไม่ต้องพึ่งพาช่องรายการประจำ แต่สามารถเพิ่มช่องใหม่ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ และ 4. มี Dynamic Playlists (เพิ่มลดจำนวนลิสต์ช่องรายการได้)
แต่เนื่องจากคลื่นความถี่เพื่อใช้ออกอากาศภาคพื้นดินมีอยู่อย่างจำกัด การใช้ระบบ Hybrid โดยใช้การ
ออกอากาศรายการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตควบคู่ไปด้วย ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาคลื่นความถี่เพียงอย่างเดียว และเมื่อมีรายการถ่ายทอดสด เช่น การถ่ายทอดกีฬาระดับโลกเพียงบางวัน ก็สามารถกำหนดให้มีช่องรายการนั้นขึ้นมาเฉพาะกิจก็ได้ เมื่อการแข่งขันจบลง ก็สามารถลบช่องรายการนั้นออกไปได้ จึงไม่จำเป็นต้องมีลิสต์ช่องรายการจำนวนมากที่สร้างความสับสนในการใช้งานให้กับผู้ชม
ระบบถัดมา HbbTV เป็นการรวบรวมเนื้อหาไว้ในแอปพลิเคชันของช่องตัวเอง โดยมีฟังก์ชั่นให้สามารถเลือกดูรายการย้อนหลัง แนะนำรายการน่าสนใจ ดูผังรายการ และสืบค้นได้ ฯลฯ ซึ่งในหลายประเทศ เช่น สเปน เยอรมัน อิตาลีออสเตรเลีย และอังกฤษ ก็นำระบบนี้มาใช้แล้ว ข้อดีของ HbbTV คือ มีการพัฒนาการเข้าถึงบริการ (เช่น เลือกเปิดปิดคำบรรยายใต้ภาพได้โดยกด “ปุ่มสีเขียว” เพียงปุ่มเดียว), มีการวิเคราะห์ผู้ชม, มีการวัดคุณภาพบริการ และสามารถดูรายการท้องถิ่นใดในพื้นที่ใดก็ได้เพราะดูผ่านแอปพลิเคชันที่เหมือนกันหมดทุกพื้นที่ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถดูรายการถ่ายทอดสดพร้อมๆ กัน 4 ช่องในรูปแบบเมตริกซ์หรือท้ายสุดจะเลือกเปลี่ยนไปรับชมเพียงช่องเดียวก็ได้
ดังนั้นหากมีความร่วมมือกันระหว่าง DVB-I และ HbbTV จะเป็นการรวมข้อดีของสองระบบเข้าด้วยกัน คือ มีรูปแบบเป็นลิสต์รายการที่ใช้งานง่าย (users friendly channels list) สามารถเข้าถึงเนื้อหาในระดับท้องถิ่น/ภูมิภาค การวิเคราะห์ผู้ชมจากการเก็บข้อมูลในการรับชมของผู้บริโภค (ซึ่ง DVB-I ไม่สามารถทำได้) และการควบคุมคุณภาพบริการ และ 5. Zap to the App (คือการเข้าถึงแอปพลิเคชันโดยตรงเพียงกดปุ่มเดียว เช่น “Red button” คล้ายๆ กับการกดปุ่ม Netflix ที่รีโมททีวี) ฯลฯ
ยังไม่รู้ว่าตอนจบของ เรื่องนี้จะเป็นยังไง เรานอนหลับไปตื่นข้นมาอาจจะมีแพลตฟอร์มอะไร เกิดขึ้นมาใหม่ยิ่งใหญ่กว่าทุกแพลตฟอร์มหรืออาจจะมีบริการอะไรที่ล้ำกว่าสตรีมมิ่งก็ได้ใครจะไปรู้ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงต้องเปลี่ยนกันอีกหลายตลบ ตั้งสติให้ดีๆ เกาะกระแสให้ติด มันอาจทำให้คุณรอดก็ได้