X
ลูกเสือ “นีน่า” ร่าเริง กินเก่ง เข้ากับพี่เลี้ยงสุดๆ รียกค่าดูแลจากเจ้าของ 1.3 ล้านบาท

ลูกเสือ “นีน่า” ร่าเริง กินเก่ง เข้ากับพี่เลี้ยงสุดๆ รียกค่าดูแลจากเจ้าของ 1.3 ล้านบาท

20 พ.ค. 2567
1540 views
ขนาดตัวอักษร

20 พ.ค.67 - “นีน่า” ลูกเสือโคร่งของกลาง อยู่ที่บึงฉวากเป็นวันที่ 2 สุขภาพดี ร่าเริง กินเก่ง เข้ากับพี่เลี้ยงสุดๆ “กรมอุทยานแห่งชาติฯ” เตรียมเรียกค่าดูแลตามกฎหมาย 1.3 ล้านบาทเศษ


จากกรณีลูกเสือโคร่งที่หลุดออกมาเดินอยู่ในชุมชน ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงดึกของวันที่ (16 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยเจ้าของได้อ้างว่าเป็นลูกสิงโตผสมเสือโคร่ง หรือ “ไลเกอร์” และได้มีการเพ้นท์สีให้เหมือนเสือเพื่อเข้าฉากถ่ายทำภาพยนต์นั้น ต่อมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ตรวจยึดเสือโคร่งจากผู้ที่ระบุว่าเป็นเจ้าของคือ นายโยธิน (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่หลุดออกมาในชุมชนและไม่ใช่ “ไลเกอร์” แต่อย่างใด 


จากการตรวจสอบลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครองของทางราชการและไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (เลขไมโครชิป) ทางเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จึงได้ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลาง พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับนายโยธินฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ครอบครองลูกเสือโคร่ง มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 มาตรา 15 ฐานปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกเสือโคร่ง)พ้นจากการดูแลของตน มาตรา 17 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกเสือโคร่ง) โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 วรรคหนึ่ง ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกสิงโต)โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 วรรคสอง ฐานไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขแจ้งการรับแจ้งตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางคล้า จ.ฉะเชิงเทราเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขออนุมัติพนักงานสอบสวน นำลูกเสือโคร่งส่งมอบให้ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) ต่อไป


ด้านความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้นำส่งลูกเสือโคร่งมาดูแลต่อ ณ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันนี้ (18 พ.ค.67) โดยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งชื่อให้กับลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวว่าน้อง "นีน่า" 

ด้านนายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตวป่าบึงฉวาก กล่าวว่า ลูกเสือโคร่ง ซึ่งเป็นของกลาง คดีอาญาที่ 244/2567 ยึดของกลางไว้ลำดับที่ 63/2567 นำส่งมอบโดยหัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่ ) และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2567 เวลา 05.00 น.ณ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี 


สำหรับลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว มีอายุประมาณ 3-4 เดือน เพศเมีย น้ำหนัก  20.5  กิโลกรัม ส่วนอาหารลูกเสือโคร่ง เป็นนม KMR ชนิดผง (ชง) ภายใน 1 วัน แบ่งให้กินนมทุก 3 ชม./ครั้ง ครั้งละ 500 มิลลิลิตร พร้อมด้วยเนื้อวัวสับหยาบ ให้กินวันละ 2 มื้อ ครั้งละ 500 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีการเสริมแคลเซียม สำหรับสุนัขแบบเม็ด 

พฤติกรรมโดยทั่วไปลูกเสือโคร่งมีความสนใจสิ่งแวดล้อมดี มีพฤติกรรมค่อนข้างติดคน มีความอยากใกล้ชิดคนตลอดเวลา ส่วนการกินเนื้อวัว และนม ปกติ ปัสสาวะปกติ ยังไม่ถ่ายอุจจาระ ร่าเริง กินเก่ง และสามารถเข้ากับพี่เลี้ยงได้ดีเยี่ยม


ด้าน สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตวป่าบึงฉวาก ตรวจอาการเบื้องต้นพบว่า สองขาหลังลงน้ำหนักได้ แต่ไม่แข็งแรงมาก (ขาหลังอ่อน) ซึ่งจะต้องตรวจดูอาการต่อไปอย่างต่อเนื่อง ต้องเสริมสารอาหารจำพวกแคลเซียม และให้กินอาหารที่ถูกหลักตามโภชณศาสตร์ที่ลูกเสือโคร่งควรได้รับตามหลักวิชาการ เพื่อป้องกันภาวะโรคกระดูกบาง กระดูกเสื่อม ในลูกสัตว์ได้ ส่วนการเลี้ยงดูแล จะต้องทำการแยกเลี้ยงเดี่ยว เพื่อทำการกักโรค ภายใน 7 วัน ไม่ปล่อยเดินเล่นนอกอาคารเลี้ยงดูลูกสัตว์ แต่ที่อาคารเลี้ยงดูลูกสัตว์สามารถเปิดรับแสงแดดได้ในยามเช้า


ส่วนในระหว่างการกักโรค ภายใน 7 วัน สัตวแพทย์จะต้องดำเนินการ เจาะเลือด เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป และทำการส่งเก็บเลือดไปยังหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ เพื่อทำการตรวจชนิดพันธุ์ของลูกเสือโคร่ง และทำการฝังไมโครชิฟ เพื่อทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า ต่อไป 


นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังเตรียม​ เรียกค่าดูแลลูกเสือโคร่งจากผู้ระบุว่าเป็นเจ้าของเสือ​ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯต้องดูแลเสือโคร่งมากกว่า 10 ปี​ เป็นเงิน 1,394000 บาท​ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าและค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่า พ.ศ.2565

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)