นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการจัดงาน Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. - 3 ธ.ค. 66 ณ เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 6 - 7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รวม 5 วัน มีพี่น้องประชาชนจากจังหวัดต่าง ๆ ตลอดจนบุคคลจากหลากหลายวงการ หลากหลายหน่วยงาน ให้ความสนใจเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยผลงานผ้าและงานหัตถกรรมอันสุดประณีตที่สะท้อนศักยภาพของการพัฒนาลายผ้าทอให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทยไว้อย่างสมบูรณ์
"การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อเผยแพร่พระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษจนเกิดการพลิกฟื้นคืนชีวิตงานหัตถศิลป์ หัตถกรรมไทย ให้ดำรงคงอยู่ด้วยพระอัจฉริยภาพและด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกล ได้ทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นแต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ พร้อมทั้งได้มีพิธีพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม ระดับประเทศ รวมถึงนักออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” Young OTOP และ TOP 5 ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Premium ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย และของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก ซึ่งเป็นกระบวนงานตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนางานผ้าและงานหัตถกรรม นับเนื่องแต่การพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา ลายปาเต๊ะร่วมใจเทิดไท้เจ้าหญิง ลายท้องทะเลไทย ลายป่าแดนใต้ และล่าสุดคือ "ลายดอกรักราชกัญญา" รวมถึงแนวพระดำริ เรื่อง Sustainable Fashion ซึ่งในงานได้รวบรวมสุดยอดผลงานที่เป็นความสำเร็จ (Success) ของผู้ชนะเลิศการประกวดผลงานผ้าและหัตถกรรมลายดอกรักราชกัญญา รวมถึงผลงาน Young OTOP จักสาน OTOP Premium OTOP ชวนชิม และศิลปิน OTOP นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการเปิดตัวหนังสือพระนิพนธ์และหนังสือเฉลิมพระเกียรติ ได้แก่ หนังสือสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา, หนังสือเครื่องสานไทย, หนังสือบาติกโมเดลสู่ตลาดสากล และหนังสือลายดอกรักราชกัญญา" และยังมีการอบรมเพิ่มพูนประสบการณ์แก่นิสิต นักศึกษาและฐานการเรียนรู้ผลงานของสุดยอดดีไซเนอร์ชั้นนำของประเทศ 13 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ได้แก่ SIRIVANNAVARI, ARCHIVE026, ASAVA, JANESUDA, IRADA, ISSUE, LANDMEE, MILIN, PYVET, TandT, THEATRE, TIRAPAN, WISHARAWISH, และ 2 Young Designers ได้แก่ แบรนด์ HAYA ผู้ชนะเลิศ และ AMEEN Studio โดยแต่ละแบรนด์นำผ้าไทยซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวของแต่ละชุมชน สะท้อนการเป็นผู้มุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา ต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทย โดยนำผืนผ้าไทยมาออกแบบตัดเย็บ อันเป็นการเผยแพร่ความสำเร็จของการน้อมนำพระดำริ Sustainable ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รวมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มที่ได้รับการพัฒนาผลงานผ้าและหัตถกรรมตามแนวพระดำริได้ทดลองการตลาด (Marketing) ซึ่งมีผลการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมที่ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง จำนวน 200 กลุ่ม จำหน่ายเพียงแค่ 5 วันสร้างรายได้มากถึง 42,858,928 บาท สร้างความปลื้มใจต่อพี่น้องช่างทอผ้าและผู้ประกอบการเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ผู้ประกอบการสามารถนำสุดยอดผลงานที่เกิดจากแรงบันดาลใจ เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการถักทอ การย้อม การออกแบบ ที่ต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือนกว่าจะได้ผลงานแต่ละชิ้น มานำเสนอให้ผู้เยี่ยมชมงานได้สัมผัสและจับจ่ายใช้สอย นับเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ประกอบการในการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมออกสู่สายตาพี่น้องประชาชนคนไทยตลอดถึงคนทั่วทั้งโลกต่อไป
"ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้ร่วมกันจับจ่ายใช้สอย อุดหนุน และเยี่ยมชมงาน Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะได้น้อมนำแนวพระดำริฯ มุ่งมั่นส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาทั้งองค์ความรู้และทักษะให้กับผู้ประกอบการ ช่างทอผ้า เพื่อทำให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องความต้องการของผู้บริโภค และได้รับความนิยมชมชอบของตลาดระดับสากลต่อไป นอกจากนี้สำหรับพี่น้องประชาชนที่พลาดงานในครั้งนี้ ยังสามารถเตรียมไปให้กำลังใจช่างทอผ้า ผู้ประกอบการ OTOP ทั่วประเทศ กับงานใหญ่ส่งท้ายปี เลือกซื้อของขวัญของฝาก ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ในงาน OTOP City 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 24 ธันวาคม 2566 ณ ชาเลนเจอร์ 1 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้อีกด้วย" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย