สถานีลาดพร้าวสายสีเหลืองเปิดบริการเที่ยงวัน19 มิ.ย.
รถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง เปิดครบ 23 สถานีวันพรุ่งนี้บริการฟรี แต่ให้บริการถึงสถานีลาดพร้าว พรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปและขยายช่วงเวลาบริการ 06.00 น. – 21.00 น. ตั้งแต่20มิ.ย.บีทีเอสยังคงคาดเริ่มเก็บค่าโดยสาร 3 ก.ค.
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)แจ้งว่ารถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง จะเปิดให้บริการถึงสถานีลาดพร้าว ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปหรือครบ 23 สถานีรวมระยะทาง 30.4 กิโลเมตรหลังจากเริ่มเปิดทดสอบครั้งแรกวันที่3มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ จะขยายช่วงเวลาให้บริการเป็นระหว่างเวลา 06.00 น. – 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนเป็นต้นไปเพื่อรองรับความต้องการเดินทางในช่วงเร่งด่วนเช้าและเย็นของประชาชนด้วย
ทั้งนี้วันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 นพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run)ตลอดสายอย่างเป็นทางการ โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ณ ศูนย์ซ่อมบำรุง – สถานีลาดพร้าว – สถานีศรีเอี่ยม โดยจะมีการ เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง
โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ถือเป็นหนึ่งในโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในความรับผิดชอบของ รฟม. ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder Line) ที่จะใช้ขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และพื้นที่บางส่วนในจังหวัดสมุทรปราการ เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักอื่นๆ โดยมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการได้บริเวณสถานีศรีเอี่ยม และสถานีลาดพร้าว
ก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส และผู้รับสัมปทานในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เปิดเผยว่า รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นหนึ่งในโครงการที่มีข้อกำหนดในสัญญาสัมปทานที่จำเป็นต้องติดตั้งระบบตั๋วร่วม อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อระบบรางอย่างสะดวก โดยขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้มีการติดตั้งระบบ EMV Contactless รองรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่มีสัญลักษณ์ EMV (Europay, MasterCard and VISA) นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้วยบัตรแรบบิทในเครือ BTS ซึ่งจะมีการจัดทำโปรโมชันราคาพิเศษอย่างต่อเนื่อง เพื่อจูงใจให้ประชาชนปรับเปลี่ยนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยสารสามารถออกบัตรโดยสารดังกล่าว ณ ตู้จำหน่ายบัตรโดยสาร และห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ซึ่งจะมีอัตราค่าโดยสาร 15 – 45 บาท
โดย รูปแบบการชำระค่าโดยสารในเบื้องต้นนั้น หากเปรียบเทียบแล้วจะพบว่าการชำระค่าโดยสารด้วยการใช้บัตร EMV เป็นทางเลือกของประชาชนที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายจากการจัดเก็บค่าแรกเข้า กรณีต้องเปลี่ยนระบบรถไฟฟ้าระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในจำนวนประมาณ 15 บาท โดยหากประชาชนเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นประจำ จะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนราว 600 บาท คำนวณจากค่าแรกเข้าที่ถูกลดหย่อนจากการเดินทางวันทำงานไปกลับจำนวน 30 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเหลืองยังคงให้บริการประชาชนโดยไม่เก็บค่าโดยสาร ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินว่าอาจจะมีการเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในวันที่ 3 ก.ค.นี้เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนขออนุมัติอัตราค่าโดยสาร จากรฟม.และออกประกาศกำหนดใช้ต่อไป