X
ศูนย์จีโนมฯ เจาะลึก “เดลตาครอน” เข้าไทย ระบาดเร็วแค่ไหน ?

ศูนย์จีโนมฯ เจาะลึก “เดลตาครอน” เข้าไทย ระบาดเร็วแค่ไหน ?

2 ธ.ค. 2565
390 views
ขนาดตัวอักษร

จากที่ สธ. โดย กรมการแพทย์ เปิดเผยถึง การติดตามสายพันธุ์ โควิด-19 ที่น่ากังวลเข้าไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ได้ตรวจพบ ผู้ติดเชื้อ “เดลตาครอน” XBC รายแรกในไทยแล้ว และปัจจุบันรักษาหายเป็นปกติดีแล้ว ทั้งนี้ “เดลตาครอน” XBC มีการแพร่ระบาด เร็วแค่ไหน ? จะเบียดแซงโอมิครอน ที่อยู่ในไทยได้หรือไม่ ? ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี มีข้อมูลเจาะลึกเรื่องนี้ มาบอกกัน



ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ระบุว่า “เดลตาครอน” จะเบียดโอมิครอน สายพันธุ์หลัก BA.2.75, BA.5 และโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย XBB, BQ.1 (ที่มีการระบาดในไทย มาก่อนหน้า) จะเข้ามาก่อปัญหา ได้หรือไม่ ?  คำตอบ จากรหัสพันธุกรรม คือ... เกิดขึ้นได้ไม่ง่าย

ไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง “เดลตา” และ “โอมิครอน BA.2” ที่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “เดลตาครอน” พบระบาดในฟิลิปปินส์ มากกว่า 193 ราย!  ทั้งยังพบ แพร่ติดต่อหลายประเทศ ในอาเซียน แต่ยังไม่พบ อาการที่รุนแรง



“เดลตาครอน” สายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง “เดลตา” และ “โอมิครอน BA.2” ทั่วโลก พบประมาณ 4 สายพันธุ์หลัก และปริมาณแต่ละสายพันธุ์ อยู่ในระดับหลักร้อย คือ

1. XAY และสายพันธุ์ย่อย XAY.1, XAY.2

2. XBA

3. XBC และสายพันธุ์ย่อย XBC.1, XBC.2 และ XBC.3

4. XAW  



แม้ว่า “เดลตาครอน” XBC มีความได้เปรียบ ในการเติบโต - แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่า “เดลตาครอน” สายพันธุ์ลูกผสมอื่น แต่มีความได้เปรียบ ในการเติบโต - แพร่ระบาด ใกล้เคียงกับ BA.5, BA.2.75, XBB และ BQ.1 ดังนั้นจึงไม่ง่ายนักที่ เดลตาครอน XBC จะระบาดแซงหน้า บรรดาไวรัสโคโรนา ที่มีการระบาด ในประเทศไทย มาก่อนหน้า (BA.5, BA.2.75, XBB, XBB.1, BN.1, BF.7, BQ.1, BQ.1.1.10, CH.1.1)

จากการทดลอง ในหลอดทดลอง พบว่า ยาฉีดแอนติบอดี สร้างภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป เช่น อีวูชิลด์ (Evusheld) สามารถเข้าจับ และยับยั้ง การเพิ่มจำนวนของสายพันธุ์ BA.5, BA.2.75, BN.1 และ เดลตาครอน XBC ได้ แต่สำหรับสายพันธุ์ XBB, XBB.1, BQ.1, BQ.1.1 พบว่า ดื้อต่อแอนติบอดี สร้างภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป เกือบทุกชนิด



จากข้อมูล จากฐานข้อมูลโควิดโลก “กิสเสด (GISAID)” พบ.. “เดลตาครอน” สายพันธุ์ลูกผสมทั่วโลก

1. เดลตาครอน XAY และสายพันธุ์ย่อย มีความได้เปรียบ ในการเติบโต - แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 38%

XAY พบจำนวนประมาณ 30 ราย    
XAY.1 พบจำนวนประมาณ 20 ราย
XAY.2 พบจำนวนประมาณ 20 ราย

2. เดลตาครอน XBA จำนวนประมาณ 6 ราย มีความได้เปรียบ ในการเติบโต - แพร่ระบาด **น้อยกว่า** BA.5 ประมาณ -15%

3. เดลตาครอน XBC และสายพันธุ์ย่อย มีความได้เปรียบ ในการเติบโต - แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 45%

XBC จำนวนประมาณ 25 ราย
XBC.1 จำนวนประมาณ 147 ราย
XBC.2 จำนวนประมาณ 132 ราย
XBC.3 จำนวนประมาณ 170 ราย

4. เดลตาครอน XAW จำนวนประมาณ 48 ราย มีความได้เปรียบ ในการเติบโต - แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 1%

ทั้งนี้ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ได้จัดเรียง ความได้เปรียบ ในการเติบโต-แพร่ระบาด ระหว่าง

XBC มีความได้เปรียบ ในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 และ BA.2.75 ประมาณ 18% และ 35%

XBB มีความได้เปรียบ ในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า XBC ประมาณ 41%

BQ.1 มีความได้เปรียบ ในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า XBB ประมาณ 9%


อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเปรียบเทียบ “XBB” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ โอมิครอนลูกผสม ที่ได้มีการระบุไว้ข้างต้นนั้น Backbone MCOT พบว่า จากข้อมูลของ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ได้โพสต์อธิบาย กล่าวถึงสายพันธุ์ “XBB” ไว้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2565 (2 เดือนที่ผ่านมา) ระบุว่า โอมิครอน “XBB” เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง โอมิครอน “BJ.1” และ “BA.2.75” ซึ่งมีต้นตระกูลร่วมกัน คือ “BA.2” (ภาพ 1)



ผลจากห้องปฏิบัติการ พบว่า หลบเลี่ยงภูมิคุ้มได้ดีที่สุด ดื้อต่อยาประเภท “แอนติบอดีสังเคราะห์ (สำเร็จรูป)” ทุกชนิด (ภาพ 2)


และพบว่า มีการแพร่ระบาดมากที่สุด ในประเทศ บังกลาเทศ, สิงคโปร์ และ อินเดีย (ภาพ 3) (ข้อมูลเมื่อ 10 ต.ค. 2565)




#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เฟซบุ๊ก : Center for Medical Genomics
(ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล)

https://www.facebook.com/CMGrama



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)