X
น้ำมันไบโอเจ็ต-เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ เป็นไปได้ด้วยงานวิจัยไทย

น้ำมันไบโอเจ็ต-เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ เป็นไปได้ด้วยงานวิจัยไทย

18 เม.ย 2566
940 views
ขนาดตัวอักษร

18 เม..66 - น้ำมันไบโอเจ็ต-เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ เกิดขึ้นได้ด้วยงานวิจัยไทย วช.สนับสนุนทีมวิจัยจากมทร.อีสาน ต่อยอดการผลิตจากฟูเซลแอลกอฮอล์ในเชิงพาณิชย์ ตอบโจทย์นโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า วชมุ่งสนับสนุนงานวิจัยที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงรองรับการปรับตัวของภาคส่วนต่าง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การสนับสนุนทุนวิจัยในปี 2563 ให้กับโครงการวิจัย "การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากฟูเซลแอลกอฮอล์ที่ได้จากโรงงานเอทานอลซึ่งมี รองศาสตราจารย์ ดรอาทิตย์ อัศวสุขี จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นหัวหน้าโครงการ 


โดยงานวิจัยดังกล่าวเป็นแนวทางใหม่สำหรับการผลิตน้ำมันไบโอเจ็ต โดยใช้ผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่จากกระบวนการหมักวัสดุทางการเกษตร เพื่อเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น  


นอกจากนี้ ในปี 2565 วช.ยังได้สนับสนุนให้งานวิจัยดังกล่าวมีการต่อยอดไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยให้ทุนสนับสนุนในโครงการ “การศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพคาร์บอนต่ำในเชิงพาณิชย์”  ซึ่งมีความร่วมมือในการขยายสเกลการผลิตในระดับต้นแบบที่ใหญ่ขึ้น ร่วมกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่หน่วยงานภาครัฐได้ทำหน้าที่ช่วยผลักดันให้เกิดการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมขึ้นในภาคธุรกิจทั้งจากการให้ทุนวิจัยและจับคู่พันธมิตรด้านงานวิจัย รวมถึงการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายการวิจัย


รองศาสตราจารย์ ดร.อาทิตย์ อัศวสุขี กล่าวว่า ในกระบวนการผลิตเอทานอลที่ผลิตจากวัตถุดิบทางการเกษตรหรือวัสดุเหลือใช้ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด กากน้ำตาล นอกจากจะให้เอทานอลเป็นผลิตภัณฑ์หลักแล้ว ยังให้ผลิตภัณฑ์พลอยได้เป็นฟูเซลแอลกอฮอล์ (Fusel alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่มีจุดเดือดสูงกว่าเอทานอล  และเมื่ออัตราการผลิตเอทานอลมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ฟูเซลแอลกอฮอล์มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นด้วย 


จากทิศทางการใช้พลังงานของประเทศไทยในภาคขนส่งที่กำลังปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) ได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้เอทานอล ซึ่งปกติจะใช้ในการผลิตแก๊สโซฮอล์ ดังนั้นการเร่งพัฒนางานวิจัยที่ศึกษาการเปลี่ยนเอทานอล รวมถึงฟูเซลแอลกอฮอล์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เพื่อผลักดันให้มีการใช้แอลกอฮอล์ในประเทศอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องสำคัญ


คณะผู้วิจัยจึงศึกษาการเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น น้ำมันไบโอเจ็ตสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการบิน โดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาซีโอไลต์ที่ได้รับการเติมแต่งโลหะให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงและดำเนินการเร่งปฏิกิริยาในถังปฏิกรณ์ชนิดเบดนิ่ง (Fixed bed reactor) ที่สามารถนำไปประยุกต์ในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพได้ง่าย


ผลการวิจัยพบว่า เมื่อใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา และดำเนินการเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนแอลกอฮอล์ในสภาวะที่เหมาะสมสามารถผลิตน้ำมันไบโอเจ็ตได้มากกว่า 57 % และเมื่อนำน้ำมันไบโอเจ็ตที่ผลิตได้ไปผสมกับน้ำมันเจ็ตเกรดการค้าจำนวน 5 % พบว่ามีสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานสำหรับใช้เป็นนํ้ามันเครื่องบินไอพ่นทหาร (JP-8) และใช้เป็นนํ้ามันเครื่องบินไอพ่นเชิงพาณิชย์ (Jet A1)

นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตยังให้ผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่น  เช่น เอทิลีน โพรพิลีน สารไฮโดรคาร์บอนโซ่ยาว เบนซินโทลูอีน และไซลีน ซึ่งสามารถนำไปใช้ผลิตเป็นเม็ดพลาสติก ตัวทำละลาย สารเติมแต่ง สี เชื้อเพลิง เช่น แอลพีจีน้ำมันเบนซิน เป็นต้น 

จากความสำเร็จของโครงการระยะแรก ที่สามารถผลิตน้ำมันไบโอเจ็ตได้จากแอลกอฮอล์ที่ประเทศไทย มีศักยภาพในการผลิตและมีสมบัติเป็นไปตามมาตรฐาน โดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูง ขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ราคาไม่แพง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คณะผู้วิจัยได้มีการดำเนินโครงการวิจัยในระยะที่ 2 โดยมุ่งศึกษาเสถียรภาพ และการฟื้นฟูสภาพของตัวเร่งปฏิกิริยา การใช้วัตถุดิบร่วมระหว่างเอทานอลและฟูเซลแอลกอฮอล์ เพื่อให้มีปริมาณสารป้อนที่เพียงพอต่อการผลิตน้ำมันไบโอเจ็ต  มีการศึกษาคุณภาพของเชื้อเพลิงชีวภาพที่เตรียมได้ต่อประสิทธิภาพการใช้งานในเครื่องยนต์เครื่องบิน รวมถึงการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ที่ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินการในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ

ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในทางเศรษฐศาสตร์ และมีความร่วมมือร่วมกับบริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชนบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชนและกองทัพอากาศ และเมื่อประสบความสำเร็จ  โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศเป้าหมายให้ประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี .. 2065 จากการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 (COP26) โดยการกำหนดให้เครื่องบินจะต้องมีการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืนซึ่งเป็นเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ และช่วยสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นนโยบายที่ใช้ในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)